<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดูไบ เตรียมตัวสร้าง “ศาลที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการดำเนินการ”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ศาลตุลาการระหว่างประเทศประจำเมืองดูไบ ที่ดูแลเกี่ยวกับข้อพิพาททางแพ่งและการค้าในอุตสาหกรรมการเงิน ได้วางแผนที่จะเริ่มดำเนินการ  “Court of the Blockchain” หรือ ศาลด้าน Blockchain  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการด้านกฎหมาย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลทางการเงินระหว่างประเทศ ของดูไบ หรือ DIFC ได้ประกาศถึงการร่วมมือกับหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล เพื่อที่จะเริ่มก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่จะมาควบคุมและจัดการพัฒนาแพลตฟอร์มกฏหมายที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Blockchain

อีกทั้ง ทาง DIFC ยังกล่าวอีกว่า “เป้าหมายของการร่วมมือครั้งนี้ คือเพื่อพัฒนาระบบเครือข่าย Blockchain และ Smart contract ที่จะทำให้ศาล สามารถใช้มันเป็นสื่อกลางในการกระจายหรือเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งถ้าเราสามารถใช้ระบบนี้ได้จริง การทำสำเนาเอกสารก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากมันเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ ”

ซึ่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษนี้ จะเริ่มจากกระบวนการทำวิจัยและพัฒนาเป็นขั้นแรก เพื่อที่จะได้จัดเป็นข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการตัดสินของศาล สำหรับเรื่อง Blockchain นี้ ดังนั้น ทางศาลจะสามารถตรวจสอบและแชร์ข้อมูลได้ทันที และเพื่อทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดนที่ดีขึ้นอีกด้วย

อ้างอิงจากงานแถลงข่าว ทาง DIFC อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับการวิจัยครั้งต่อไป ทางเราจะรวบรวมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากร Blockchain เพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบและตัดสินข้อพิพาท ตามข้อบังคับและข้อกำหนดตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็นระหว่างภาครัฐหรือเอกชนก็ตาม”

ในขณะที่รายงาน ดร.Aisha Bint Butti Bin Bishr ผู้บริหารสำนักงาน Smart Dubai Office ได้อธิบายจากคำแถลงการณ์ ว่า กลยุทธ์ Dubai’s blockchain “มุ่งมั่นที่จะเปิดใช้งานระบบดำเนินการทำธุรกรรมของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง Blockchain ภายใน ปี 2020”

ดร.Aisha ระบุบเพิ่มเติมว่า “นวัตกรรมในระดับนี้ต้องการการบังคับใช้กฏหมายที่แบ่งเป็นส่วนๆอย่างชัดเจน นี้คือเหตุผลว่าทำไม ทาง DIFC ต้องการ Partner ที่เข้ามาประสานงานและช่วยกันควบคุมดูแลเทคโนโลยี Blockchain”

อีกทั้งทางรัฐบาลดูไบ คาดว่าภายในปี 2020 รัฐบาลจะประกาศใช้โครงการด้าน Blockchain และเป็นส่วนหนึ่งในข้อกฏหมาย

อาทิ เมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกรมพัฒนาเศรษฐกิจดูไบ ประกาศว่า ได้วางแผนที่จะพัฒนาเแพลตฟอร์มการจดทะเบียนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain และเมื่อปีที่แล้ว ทางกรมตรวจคนเข้าเมืองและวีซ่าดูไบ กล่าวอีกว่า “เราจะใช้ระบบที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Blockchain แทนการใช้เจ้าหน้าที่ตรงที่คนเข้าเมือง ในสนามบิน U.A.E. city’s international airport”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น