ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้เคยรายงานการเข้าจับกุมนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” ดูเหมือนว่าคดีนี้ มีทั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง DNA ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงคนดังในวงการตลาดหุ้นอย่าง นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ
ก่อนหน้ามีรายงาน ระบุว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ เข้าแจ้งความว่าถูกนายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของ บูม จิรัชพิสิษฐ์ และพวกหลอกให้ร่วมลงทุน โดยให้ผู้เสียหายซื้อหุ้นด้วยเงินดิจิทัลสกุลบิทคอยน์
หลังจากนั้น ทางกองปราบปรามที่ดูแลคดีดังกล่าว ได้ออกหมายเรียกผู้เข้าข่ายกระทำความผิด และแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์จำนวน 5 คน ประกอบด้วย
- นายปริญญา จารวิจิต
- นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ดารานักแสดงหนุ่ม
- นายธนสิทธิ์ จารวิจิต น้องชายของนายปริญญา
- นายชาคริส อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็กเปย์ จำกัด และ
- นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหุ้นเมืองไทย
ล่าสุด วันที่ 20 สิงหาคม นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ หนึ่งในผู้ถูกออกหมายเรียก ได้แถลงข่าวชี้แจ้งพร้อมยันบริสุทธิ์ และถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย โดยถูกใช้เครดิตหลอกให้ลูกค้าของตนเอง โอนหุ้นให้เข้าบัญชี “ปริญญา” มูลค่ากว่า 600-700 ล้านบาท แต่ว่าทางนายปริญญาชำระเงินไม่ครบ
โดยอ้างอิงจาก นายประสิทธิ์ นั้น ทางเขาชี้แจ้งว่า ได้รู้จักกับนายปริญญา ผ่านทางเฟซบุ๊กหลังไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบล็อกเชนจากประเทศสิงคโปร์ จากนั้น นายปริญญา แนะนำให้รู้จักกับ นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ เจ้าพ่อบิทคอยน์ หรือ ผู้เสียหาย พร้อมแฟนสาว เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี บล็อกเชน
ในการทำธุรกิจร่วมกัน นายประสิทธิ์ ระบุว่า แต่ละคนมีหน้าที่อย่างชัดเจนแตกต่างกัน โดยนายประสิทธิ์มีหน้าที่เป็น Deal maker เพราะตนมีความรู้และชำนาญเกี่ยวกับหุ้น แต่หลังจากทำงานร่วมกันไม่ถึง 4 เดือน ตนเริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส่ของนายปริญญา ว่าทำไมไม่มีการโอนหุ้นให้กับลูกค้า และไม่โอนเงินเข้าบริษัท
‘ผม อาร์นีและแฟนสาวของเขา เราต่างได้รับความเสียหายร่วมกัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ อาร์นีเสียหายบิทคอยน์ ส่วนผมเสียหายหุ้นให้กับนายปริญญา ’
ส่วนกรณี Dragon Coin นายประสิทธิ์ ไม่ได้กล่าวถึงแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า แต่ละคนมีหน้าที่ ที่ชัดเจน โดยตนมีหน้าที่ให้การดูแลเรื่องการโอนหุ้น DNA เท่านั้น
ทั้งนี้ หลังมีหมายเรียกจากกองปราบปราม ให้เข้าพบในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ทางนายประสิทธิ์ ยืนยันว่า พร้อมที่จะเข้าพบตลอดเวลา
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น