เจ้าหน้าที่ด้านการตรวจคนเข้าเมืองและการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “ช่องโหว่” จะเกิดขึ้นทุก ๆ ครั้งที่อาชญากรแปลงจากคริปโตเป็นเงิน Fiat ซึ่งสามารถใช้ช่องโหว่นั้นในการตามรอยได้
นาย Matthew Allen ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภายในประเทศของหน่วยสืบสวนสอบสวนความมั่นคงแห่งประเทศ (HSI) ได้อธิบายว่าเกี่ยวกับหน้าที่ของ Cryptocurrency ในการลักลอบค้ายา ในงานเฮียริ่งของวุฒิสภาสหรัฐฯเกี่ยวกับการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
“ในเว็บซื้อขายใต้ดิน และเว็บผิดกฎหมายอื่น ๆ ชอบมีการใช้คริปโตเช่น Bitcoin และ Monero มากกว่าคริปโตอื่น ๆ ”
ถึงแม้จะคริปโตจะมีจุดเด่นที่ความเป็นส่วนในการทำธุรกรรม แต่เขาระบุว่า HSI นั้นเคยติดตามการฟอกเงิน และค้ายาด้วยคริปโตของอาชญากรสำเร็จเช่นกัน
เขาได้อธิบายว่า ถึงแม้คริปโตจะทำให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แต่อาชญากรก็ยังจำเป็นต้องแลกคริปโตเป็นเงิน Fiat อยู่ดี หรือแลกเงิน Fiat เป็นคริปโตอยู่ดี
“ในขณะที่แปลงจากคริปโตเป็นเงิน Fiat นั้น เป็นจังหวะที่อาชญากรเปิดช่องโหว่ให้เห็นตัวตนชัดเจนที่สุด”
นาย Allen ได้ให้เห็นถึงกระบวนการตรวจที่เขาใช้ว่า:
“การนำวิธีการสืบสวนแบบดั้งเดิม เช่นการตรวจตรา, ปฏิบัติการลับ และการได้รับข้อมูลอย่างผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม รวมกับการวิเคราะห์ด้านการเงิน และ Blockchain HSI จะสามารถขัดขวางอาชญากรรม และถอนรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งเว็บเทรดคริปโตที่ให้บริการฟอกเงินกับอาชญากรได้”
นอกเหนือจากใช้กระบวนการดังกล่าวแล้ว เขายังได้เผยว่า ได้มีการฝึกฝนนักสืบ และตามรอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถติดตามการทำธุรกรรมคริปโตได้อีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น