นาย Roger Ver เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุตสาหกรรมของ Cryptocurrency โดยเขาเคยกล่าวว่าตัวเขาเองนั้นเป็น “นักลงทุนรายแรกที่เข้ามาลงทนใน Cryptocurrency” โดยเขาได้เริ่มเข้ามาตั้งแต่ปี 2011 และได้ศึกษาทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเศรษฐศาสตร์ “ตั้งแต่ยังเยาว์วัย” โดยมันทำให้เขาเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin
“มันไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เลยว่าผู้คนกำลังเริ่มใช้มันเป็นเงิน และราคาของมันก็ถูกกำหนดจาก Demand และ Supply”
แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ 2017 เขาได้กล่าวว่า Bitcoin Cash คือ “Bitcoin ตัวจริง” และจะมีมูลค่าทางการตลาดที่ยิ่งใหญ่ปละมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากในอนาคต
ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
“ผมอยู่ข้างเดียวกับคริปโคนะ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Peer-to-peer ในการชำระเงิน ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจก็คือเกิดการแบน, เซ็นเซอร์, โดนโจมตีในตัว Bitcoin”
“แต่สำหรับคนที่อยากที่จะชำระเงินได้ทุกที่บนโลก รับหรือส่งเงินกับใครก็ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินและไม่ต้องขออนุญาตใครนั้น Bitcoin นั้นไม่สามารถให้ได้แต่ Bitcoin Cash สามารถให้สิ่งนั้นคุณได้”
“ถ้าคุณอยากถามหาเรื่องจุดประสงค์ของ Bitcoin Cash สามารถเปิด White Paper ของ Bitcoin ได้เลยเช่นกัน”
“Bitcoin Cash มันคือเวอร์ชั่นเดียวกับ Bitcoin ที่ผมได้ลงทุนไปในปี 2011 ผมลงทุนใน Bitcoin Cash เพราะใันคืแอเวอร์ชั่นเดียวกับ Bitcoin ที่ผมเคยลงทุนไปเมื่อแปดปีก่อนนั่นเอง”
LocalBitcoins
ในการให้สัมภาษณ์จาก Cointelegraph นาย Roger Ver ได้กล่าวว่า มีสายลับสหรัฐฯ แฝงตัวไปใน LocalBitcoins และจับกุมพวกเขา โดยเขากล่าวว่า:
“มันไม่ยุติธรรมที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ แฝงตัวอยู่ในเว็บไซต์ LocalBitcoins โดยพยายามที่จะซื้อ Bitcoin จากบุคคลทั่วไป และเมื่อพวกเขาไปซื้อ Bitcoin ตามที่ตกลงไว้ก็ทำการจับกุมพวกเขา และโยนคนขายเข้าคุกเป็นเวลาหลายปี นี่มันบ้ามาก ๆ มันสมควรที่จะหยุดได้แล้ว”
“มันเป็นเรื่องอับอายของชาวอเมริกา ไม่มีประเทศไหนที่เขาจับคนเข้าคุกเป็นเวลาหลายปีเพียงแค่ขาย Bitcoin ให้กับบุคคลที่ต้องการซื้อ”
โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า:
“นั่นคุณก็หมายความว่า อเมริกาไม่เหมาะสมที่จะทำธุรกิจด้านคริปโตใช่หรือไม่?”
นาย Roger ได้กล่าวว่า:
“คนที่ทำธุรกิจด้านคริปโตในอเมริกาในตอนนี้นั้น คุณมีอันตรายอย่างแน่นอน”
แล้วประเทศไหนที่เหมาะสมกับธุรกิจด้านคริปโต? ผู้สื่อข่าวถามต่อ
“มีหลายประเทศที่คอยสนับสนุนธุรกิจด้านคริปโตเช่น Singapore, Hongkong, Switzerland Malta และ Cyprus” เขากล่าว
โดยคำถามสุดท้ายที่ผู้สื่อข่าวถามก็คือ “คุณอยู่ในอุตสาหกรรมด้านคริปโตมาแปดปีแล้ว แล้วอนาคตของมันจะออกมาในรูปแบบไหน?”
“ในอนาคตจะมีการใช้มากขึ้น และนับไปใช้งานในสังคมทั่วโลกได้ กฏหมายต่าง ๆ สามารถทำให้มันช้าลงแต่ไม่สามารถยับยั้งมันได้” เขาสรุป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น