<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มีคนพยายามเก็บ MV เพลงแร็พชื่อดัง ‘ประเทศกูมี’ ไว้บน Blockchain ของ ZCoin แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่กลายเป็นวีดีโอไวรัลที่ดังอย่างฉุดไม่อยู่ในปัจจุบัน จนทำให้ทางรัฐบาลต้องออกมาประกาศ ‘ห้ามไม่ให้ประชาชนแชร์’ นั้น ล่าสุดมิวสิควีดีโอเพลงแร็พชื่อดังของ Rap Against Dictatorship อย่างเพลง ‘ประเทศกูมี’ นั้นได้ถูกอัพโหลดลงเว็บเก็บไฟล์แบบ decentralized นาม ipfs.io และนำเอาลิงค์นั้นไปแปะไว้ใน blockchain ของ Zcoin แล้วเรียบร้อย

โดยอ้างอิงจากคุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม หรือผู้ก่อตั้ง Zcoin และ Satang นั้น เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสยามบล็อกเชนว่ามีคนที่ไม่ทราบชื่อได้ทำการอัพโหลดไฟล์วีดีโอดังกล่าวลงไปในเว็บ ipfs.io หรือเว็บเก็บไฟล์แบบ decentralized ที่จะมีการเก็บไฟล์แบบแยกไว้ทั่วโลก ทำให้ไฟล์ที่ถูกอัพบนเว็บดังกล่าวนั้นไม่สามารถถูกลบได้ อีกทั้งจะยังไม่สามารถถูกบล็อกเพื่อไม่ให้เข้าถึงได้อีกด้วย ที่สำคัญ ลิงค์ของไฟล์ดังกล่าวนั้นยังได้ถูกเก็บไว้บน blockchain ของเหรียญคริปโตด้าน privacy ฝีมือคนไทย ที่จะปกปิดข้อมูลส่วนตัวของผู้ทำธุรกรรมและเส้นทางการทำธุรกรรมอีกด้วย

ดังที่เห็นในภาพด้านบนนั้น ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเก็บไว้บน Block Height ที่ 111089 ของเหรียญ Zcoin โดยคุณหนึ่งกล่าวว่า

“จะไม่รู้ใครเป็นคนโพส ข้อมูลจะไม่หาย และจะไม่โดนบล็อกเพื่อไม่ให้เข้าถึงครับ เพราะด้วย mint spend ของ zcoin จะไม่รู้ว่า link id บน ipfs นี้มาจากไหนครับ แล้วเป็น public blockchain ทำให้ลบ link ไม่ได้ ส่วน ipfs ก็ทำให้ลบวีดีโอไม่ได้ ซึ่งทั้งคู่เป็น distributed เลย block ไม่ได้”

เมื่อถามว่าใครเป็นผู้โพสวีดีโอดังกล่าวลงบนเว็บ เขากล่าวว่า “มีคนทำครับ เราแค่เสนอข่าว ไม่รู้ว่าใคร” และเมื่อถามว่ารู้ได้อย่างไรว่ามีไฟล์ดังกล่าวที่ถูกอัพลง คุณหนึ่งเผยว่าลักษณะคล้ายกับข่าวที่มีคนเอาวีดีโอเปิดเผยรัฐบาลจีนไปโพสลงในเว็บดังกล่าว ซึ่งทำให้เขาสงสัย และเปิดไฟล์ดังกล่าวขึ้นมาดู

เว็บ ipfs.io เป็นเว็บแบบ peer-to-peer hypermedia protocol ที่เมื่อผู้ใช้งานอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปแล้ว ไฟล์ดังกล่าวจะถูกนำไป distributed หรือเผยแพร่อยู่บนเครือข่าย blockchain ที่อยู่ทั่วโลก (ประมาณ 4,000 node ทั่วโลก อ้างอิงจากคุณหนึ่ง) ส่งผลทำให้ไม่สามารถถูกลบหรือแก้ไขได้ จนกว่าเครือข่ายทั่วโลกนั้นจะล่มพร้อมกันทั้งหมด 100% และยังไม่สามารถถูก block ให้เข้าถึงไม่ได้อีกด้วย

ประเทศกูมี

ดูเหมือนว่าในขณะนี้โซเชียลในประเทศไทยจะลุกเป็นไฟ เมื่อเพลง ‘ประเทศกูมี’ นั้นเริ่มเป็นที่นิยมจนถึงขั้นไวรัล และส่งผลทำให้เกิดการจับกุมหนึ่งในศิลปินของวง Rap Against Dictatorship ในข้อหา ‘ให้ร้ายประเทศ-กระทบลงทุน

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาส่วนใหญ่ในเพลงนั้นเป็นการหยิบเอาเหตุการณ์และความจริงที่เกิดขึ้นในอดีตในประเทศไทยมาแต่งเป็นเพลงแร็พ เพื่อชี้ให้หลาย ๆ คนเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

ซึ่งภายหลังนั้นทางรัฐบาลก็ได้ออกมาเตือนว่าการแชร์เพลงดังกล่าวต่อกันนั้นถือเป็นการเข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (5) ซึ่งจะมีโทษคือ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาททั้งผู้โพสและผู้แชร์ อีกด้วย

“แม้ว่าจะไม่ได้แชร์เพลงต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ข้อกฎหมายระบุไว้ว่า หากแชร์หรือส่งต่อก็จะถือว่าเข้าข่ายความผิดเช่นกัน”

กล่าวโดยพันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ปอท.

อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสนใจคือนายวัญญัติ ชาติมนตรี หรือเลขาธิการสมาพันธ์กฎหมายเพื่อสิทธและเสรีภาพออกมาเผยว่าถ้าหากหากเพลง ‘ประเทศกูมี’ ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ เพลงคืนความสุขของ คสช. ก็น่าจะเข้าข่ายด้วยเช่นกัน โดยเขากล่าวให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า

“การจะใช้พ.ร.บ.คอมพ์มาตรา14(2)ดำเนินคดี จึงเข้าข่ายการฟ้องปิดปาก ปิดหู ปิดตา ประชาชน ซึ่งการจะทำความเข้าใจวงการเพลงแร็พหรือฮิพฮอพ ต้องย้อนดูยังจุดกำเนิด อันถือเป็นการบอกเล่าเนื้อหาสะท้อนสังคมและการเมืองอย่างตรงไปตรงมา อาจเป็นความจริงอีกด้านหนึ่งก็ได้ เหมือนที่คนเชื้อสายแอฟริกันทำกัน ถ้าเช่นนั้นเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย ผมก็มีความคิดว่า เพลงนี้เข้าข่ายเป็นความเท็จ ขัดต่อความจริง ขัดความรู้สึกของประชาชน ก็ต้องผิดด้วยใช่หรือไม่”

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ แฮชแทก ประเทศกูมี ขึ้นสู่เทรนด์ทวิตเตอร์อันดับที่ 1 แล้ว นอกจากนี้ในชาร์ตเพลง itunes ประเทศไทย เพลง ประเทศกูมี ก็สามารถขึ้นชาร์ตอันดับที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น