นาย Matthias Steinig หรือนักพัฒนาชาวเยอรมันผู้ที่หลงไหลและโฟกัสงานของเขาไปที่การพัฒนาเทคโนโลยี Lightning Network เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคนั้นได้สร้างโปรเจ็คออกมาสองตัว อย่างแรกก็คือโซลูชันด้าน e-commerce ที่รองรับธุรกรรมผ่าน Lightning บนเว็บไซต์ ซึ่งตัวอย่างนั้นมีให้เห็นได้ที่นี่ ส่วนโปรเจ็คที่สองนั้นดูเหมือนว่าจะน่าสนใจมากกว่า เมื่อเขาสร้างจักรยานไฟฟ้าให้เช่า ที่ลูกค้าสามารถจ่าย Bitcoin เพื่อ “เพิ่มความเร็ว” (ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเวลาที่ปั่น) ในการขี่ได้
โดยนาย Steinig ได้ออกมาโชว์โปรเจ็คของเขาผ่านทาง Twitter และเผยแพร่โค้ดบน Github แล้ว
lightning-bike, the e-bike whose electrical support can be paid for with ⚡lightning⚡ https://t.co/8sUn1ca1Xu. Tomorrow i take a video how it works, so stay tuned! pic.twitter.com/X1z5tj2v72
— Matthias Steinig ⚡ (@leblitzdick) October 10, 2018
ระบบเช่าจักรยานดังกล่าวนั้นมีส่วนประกอบหลัก ๆ สองส่วนที่ทำงานอยู่บนเครื่อง Raspberry Pi โดยโค้ดดังกล่าว (ที่ถูกเขียนด้วย Python) นั้นง่ายสำหรับนักพัฒนาคนอื่น ๆ ในการนำไปปรับใช้และพัฒนาเพิ่มได้ ซึ่งส่วนแรกก็คือตัว server ที่จะช่วยสั่งการตัวแบตเตอรี่ของจักรยานในการ “เพิ่มความเร็ว” ให้กับจักรยานเป็นเวลานานเท่าไรนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวน Bitcoin ที่จ่ายเข้ามา และส่วนที่สองนั้นเป็นหน้าจอ LCD และตัวรับสัญญาณไร้สายที่จะถูกติดอยู่กับจักยาน
จักรยานดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า “Lightning Bike” ซึ่งระบบการทำงานนั้นก็ง่ายดาย ขั้นแรกคือผู้ที่ต้องการจะใช้บริการนั้นจะต้องทำการจ่าย Bitcoin จำนวน 250 satoshi (ประมาณ 50 สตางค์) ก็จะสามารถเปิดระบบแบตเตอรี่เพื่อ “เพิ่มความเร็ว” ให้กับจักรยานเป็นระยะเวลา 1 นาทีได้
นาย Steinig กล่าวว่า
“เมื่อทำการจ่าย Bitcoin ไปแล้ว ระบบจะทำการเปิดแบตเตอรี่ตามระยะเวลาที่กำหนด และคุณจะสามารถเริ่มขี่ได้!!! หลังจากที่หมดเวลาตามที่จ่ายมาแล้ว ระบบจะทำการปิดตัวเองลง และระบบ power supply ก็จะถูกตัดตอน ซึ่งก็แน่นอน คุณยังขี่ต่อไปได้ แต่จะต้องปั่นด้วยแรงตัวเอง โปรแกรมดังกล่าวจะพาคุณกลับไปหน้า home และคุณสามารถที่จะจ่ายเพื่อใช้งานมันได้อีกครั้ง ถ้ามันใช้งานไม่ได้ ระบบที่หน้าจอก็จะแสดงคำเตือนออกมา และคุณสามารถที่จะลองมันได้อีกครั้ง”
ภายใต้ระบบปฏิบัติการ
ระบบซอฟต์แวร์ของ Lightning Bike นั้นถูกเขียนด้วยภาษา Python และโค้ดทั้งหมดที่เขาทำขึ้นมานั้นเป็นระบบ open source (ไม่มีลิขสิทธ์ ใครจะนำไปพัฒนาต่อก็ได้) สำหรับตัวฮาร์ดแวร์นั้น จักรยานดังกล่าวได้ตัวเครื่อง Raspberry Pi Zero มาเป็นหัวใจหลักสำคัญ เนื่องจากว่ามันเป็นรุ่นที่เล็กที่สุดของ Raspberry Pi
สำหรับตัว server นั้น ตัวโมเดลจักรยานสำหรับโชว์นั้นใช้ตัว Raspberry Pi 3 อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องดังกล่าวนั้นอาจจะถูกแทนที่ด้วยเครื่อง server ที่ใหญ่กว่านี้ หากว่าเขาต้องการจะสร้างจักรยานดังกล่าวขึ้นมาเพิ่มขึ้นอีกหลายคัน และเปิดเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
พลังแห่ง Micropayment
ก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันในกลุ่มผู้ใช้งาน Bitcoin ว่ามันควรที่จะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อสินค้าเล็ก ๆ อย่างเช่นกาแฟ หรือก๋วยเตี๋ยวหรือไม่ เนื่องจากค่าธรรมเนี่ยมในการโอนที่มักจะแพงขึ้นเมื่อมีผู้ใช้งานเยอะ กลุ่มนักพัฒนาฝั่งหนึ่งก็มองว่าการเพิ่มขึ้นของขนาด block ในการเก็บข้อมูลนั้นจะช่วยทำให้ค่าธรรมเนียมของมันต่ำลงได้ ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งได้คิดค้นระบบ second layer protocol อย่างเช่น Lightning Network ขึ้นมาแก้ปัญหาดังกล่าวนี้
ความคิดสร้างสรรค์ของนาย Steinig ได้แสดงให้โลกของเราเห็นแล้วว่าไม่เพียงแต่แก้วกาแฟเท่านั้นที่สามารถใช้ Bitcoin ซื้อได้ แต่การทำธุรกรรมอย่างเช่นการเช่าจักรยานไฟฟ้าเป็นระยะเวลาแค่ 1 นาทีด้วยเงินเพียงแค่ 50 สตางค์นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยความเร็วระดับการกระพริบตา
ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันว่าการจ่ายเงินด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ หรือ microtransaction นั้นจะมาเป็นอนาคตของระบบการจ่ายเงินในเวลาอีกไม่นานที่จะถึงนี้ ลองจินตนาการดูว่าจะดีสักแค่ไหนหากคุณสามารถเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ และสามารถจ่ายเงินผ่านระบบ payment ที่รองรับธุรกรรมแค่บาทสองบาทได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น