บัญชีผู้ใช้งานของผู้ก่อตั้ง Bitcoin นาย Satoshi Nakamoto บนแพลทฟอร์มโซเชียลนามว่า P2P Foundation ได้มีการเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งมีการโพสคำปริศนาที่ทำให้ผู้คนต่างก็สงสัยไปตาม ๆ กัน
ในขณะที่บัญชีผู้ใช้งานดังกล่าวนั้นถูกเชื่อมอยู่กับอีเมล์เก่าของนาย Satoshi ซึ่งก็คือ [email protected] โดยเป็นอีเมล์ที่ถูกใช้ในการอัพโหลด white paper ฉบับแรก ๆ ของ Bitcoin เมื่อปี 2009 แต่ภายหลังอีเมล์ดังกล่าวก็ถูกแฮ็คไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2014 ซึ่งถือเป็นสี่ปีให้หลัง หลังจากที่สามารถติดตามกิจกรรมการเคลื่อนไหวออนไลน์ของนาย Satoshi ได้
การอัพเดตบนโปรไฟล์ของนาย Satoshi นั้นมีแค่คำเดียวซึ่งก็คือคำว่า “nour” พร้อมเครื่องหมายคำพูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ ที่จะถอดรหัสมัน ซึ่งคำจำกัดความของคำว่า nour บนเว็บ urbandictionalry.com นั้นกล่าวว่า
“บุคคลที่น่าเป็นที่รัก, และห่วงใยมากที่สุดที่คุณจะได้พบ เป็นคนที่ฉลาดมาก ๆ, ตลก และอ่อนไหวมาก แต่ก็ยังคงหลงทางในชีวิต และกำลังมองหาสิ่งที่เธอต้องการในชีวิต และรวมถึงการเข้าถึงเป้าหมายนั้น อีกทั้งยังเป็นคนที่ดื้อดึง และจะไม่ฟังคนรอบข้างที่คอยให้คำแนะนำ เมื่อเธอยิ้ม เธอจะทำให้คุณลืมปัญหาที่คุณมีทั้งหมด กอดของเธอจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจได้ว่าจะไม่เคยได้รับหรือรู้สึกมันจากที่ไหนมาก่อน”
นอกจากนี้ คำว่า “nour” ในภาษาอาราบิค “ور” ยังมีความหมายว่า “แสงสว่าง” หรือยังมีความหมายว่า “ไฟ” ในภาษาฮีบรูว (“נור,” “nour”) และภาษาอราเมอิก (“,נורא” “noura”) อีกด้วย ทว่าอย่างหลังนั้นถูกใช้ใน “Haggadah” และพิธีกรรมในเทศกาลของชาวยิวอีกด้วย
นอกจากคำว่า “nour” แล้วนั้น บัญชีของ Satoshi ยังได้เป็นเพื่อนกับผู้ใช้งานนาม Wagner Tamanaha ที่บัญชีของเขาเผยว่ามาจากเมือง São Paulo ประเทศบราซิลอีกด้วย ที่น่าสนใจคือนาย Tamanaha ได้โพสขอบคุณบนทวิตเตอร์นาย Satoshi เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า
“はじめましてどうぞよろしくお願いします. どうもありがとうございました. ブラジルからビットコインのために 頑張ります!”
ซึ่งแปลว่า
“ดีใจที่ได้พบคุณขอบคุณมากฉันจะพยายามอย่างสุดยอดสำหรับ Bitcoins จากบราซิล!”
โพสล่าสุดบน Facebook ของนาย Tamanaha เผยว่าเขานั้นเป็นนักเคลื่อนไหวด้าน Blockchain ในประเทศบราซิล และนอกจากนี้โปรไฟล์บน blogspot ยังมีโพสที่เขียนว่า “Social networks with crypto media Steemit, coming together in the blockchain revolution,” ในเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016 อีกด้วย
นาย Satoshi นั้นได้หายตัวไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2010 จนทำให้หลาย ๆ คนต่างก็ต้องตั้งคำถามในตำนานขึ้นมาว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นกลุ่มคนหรือบริษัทกันแน่หลังจากที่เขาทิ้ง whitepaper ของ Bitcoin ไว้ นอกจากนี้ชื่อ Satoshi นั้นยังถูกนำไปใช้เป็นหน่วยย่อยของ BTC อีกด้วย
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าการออกมาเคลื่อนไหวของนาย Satoshi ล่าสุดนั้นมีความหมายอย่างไร และจะเกี่ยวข้องกับทิศทางของราคา หรือการพัฒนา Bitcoin ในอนาคตหรือไม่
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น