<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แม้ราคา Bitcoin จะฟื้นขึ้น 4,000 ดอลลาร์ แต่จะเพียงพอสำหรับการอยู่รอดของนักขุดหรือไม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทขุดเหมืองในยุโรปและเอเชียก็ต่างปิดตัวลง ท่ามกลางราคาคริปโตหรือ Bitcoin ที่ทะยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง

อ้างอิงจากเว็บ FT บริษัท Startup นาม Bladetech หรือบริษัทขุดเหมืองที่ใหญ่สุดในอังกฤษ ได้ปิดตัวลงเนื่องจากราคา Bitcoin ที่ลดลงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์

ไม่มีกำไรแล้วในการขุด

นาย Aron van Ammers ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ Outlier Ventures กล่าวว่า การที่ราคา Bitcoin ลดลงเหลือ 4,000 ดอลลาร์จึงทำให้กำไรจากการขุดเหมืองนั้นแทบไม่มี

นักวิจัยบางคนคาดว่าคนที่ทำการขุดเหมืองคริปโต เริ่มสูญเสียกำไรตั้งแต่กลางปี 2018 แล้ว เนื่องจากราคา Bitcoin ลดลง และเลยจุด Breakeven ของค่าใช้จ่ายในการขุดเหรียญไปแล้ว

วิจัยจาก BitMEX Research ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิจัยของเว็บเทรด BitMEX อ้างว่า Bitmain หรือบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ขุดเหมืองสูญเสียกำไรกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่า Bitmain ขาดทุนกว่า 11.6 เปอร์เซ็นต์สำหรับเครื่อง S9 ส่วนเครื่องรุ่น L3 ขาดทุน 100 เปอร์เซ็นต์ ในความเป็นจริงนั้นค่าใช้จ่ายอาจลดลงดังนั้นสถานการณ์อาจไม่เลวร้ายมาก แต่ก็คิดว่า Bitmain น่าจะขาดทุนอย่างหนัก

นักวิจัยกล่าวอีกว่าการที่บริษัทสามารถขายเครื่อง S9 ได้น้อยลงอาจเป็นเพราะความต้องการในการขุด Bitcoin นั้นลดลงนั่นเอง

บริษัทขายฮาร์ดแวร์ขุดเหมืองอย่าง Bitmain นั้นสามารถทำกำไรได้มากกว่าบริษัทเล็ก ๆ หรือนักขุดรายย่อย และสองอย่างหลังนั้นอาจได้รับความเสียหายมากกว่ากำไร

Hash rate ของ Bitcoin ลดลงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาประมาณ 45 exahash แต่เมื่อเทียบกับราคา Bitcoin ลดลงนั้น มันก็ไม่ได้ลดลงมากเท่าที่ควร

นักขุดมีแนวโน้มที่จะขุดต่อถึงแม้ว่าจะไม่มีกำไร

การที่ Hash Rate ของ Bitcoin ลดลงทำให้นักขุดกำลังสูญเสียกำไรจากการขุด Bitcoin แต่ในระยะยาวนั้นถ้าราคา Bitcoin สูงขึ้น ก็จะได้กำไร

แต่ก็เป็นเรื่องยากที่นักขุดจะปิดเครื่องขุดได้เพราะว่าอุปกรณ์ขุดเหมืองหลายตัวนั้นอาจไปทำสัญญากับผู้ประกอบการและส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาระยะยาวนั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น