นาย Mark Dow นักวิเคราะห์ Bitcoin ชื่อดังได้กล่าวว่า ปี 2018 คือปปีที่ดีที่สุดสำหรับ Bitcoin
ถึงแม้ตลาดคริปโตจะเป็นขาลงตลอดปี 2018 เนื่องจากคริปโตเช่น Bitcoin และ Altcoins อื่น ๆ นั้นก็มีมูลค่าร่วงลงมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทำเอานักลงทุนหลายคนเริ่มหมดหวังในคริปโต แต่ดูเหมือนว่า นาย Mark Dow นักวิเคราะห์ Bitcoin ชื่อดังจะชี้ว่า ปี 2018 นั้นเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับ Bitcoin โดยให้เหตุผลว่า เครือข่ายของมันเติบโตอย่างมาก
มีการใช้งาน Segwit ของ Bitcoin อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
นาย Jameson Lopp CTO ของสตาร์ทอัพนาม CasaHODL ได้เผยว่า Protocol SegWit ของ Bitcoin (Protocol ที่ทำให้ประมวลผลธุรกรรมในเครือข่ายได้มากขึ้น)นั้นมีผลงานที่ดีมากในปี 2018
ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการใช้งาน Segwit มากขึ้นจาก 10 เป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดขึ้นจากเว็บเทรดและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เริ่มหันมายอมรับ Segwit มากขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนในการดำเนินการที่ลดลง และมีค่าถอนที่ถูกลง
The percentage of bitcoin transactions spending Segregated Witness inputs rose from 10% to 40% in 2018. pic.twitter.com/wGiFZsFga5
— Jameson Lopp (@lopp) December 21, 2018
นอกจากการใช้งาน Segwit ที่มากขึ้นแล้ว ขนาดของธุรกรรมยังลดลงจาก 750 bytes เหลือ 450 bytes อีกด้วย ทำให้มีค่าธรรมเนียมที่ลดลง และ Lightning Network เองก็ยังมีรายงานอีกด้วยว่า Node ที่เป็น Channel นั้นสามารถรองรับ Bitcoin ได้มากกว่า 500 BTC แล้วต่อ Node แล้ว และปัจจุบันมี Channel ที่ใช้งานประจำทั้งหมดใน Lightning Network ถึง 2,180 Channels แล้ว
ความสำเร็จอื่น ๆ ของ Bitcoin ในปี 2018
ผู้ใช้ Twitter นาม Armin Van Bitcoin ก็ได้ออกมาชี้ว่า เครือข่าย Bitcoin นั้นมีการพัฒนาแบบเห็นได้ชัด
2018 has been by far the most successful year in #Bitcoin.
– lightning network launched ⚡
– #segwit quadrupled to 45%
– Bitcoin core 0.16.0 + 0.17.0
– worldwide offline coverage ?️
– hashrate quadrupled
– mempool emptied
– “The Bitcoin Standard” ?
– @CasaHODL launched??
— A v B ⚡ (@ArminVanBitcoin) December 23, 2018
ยกตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ของ Bitcoin Core นั้นได้รับการอัปเกรดจากเวอร์ชัน 0.16.0 เป็น 0.17.0 ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น, Blockstream ได้ปล่อยดาวเทียมไปถึง 5 จานขึ้นไปในอวกาศส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเครือข่าย Bitcoin ได้ถึงแม้จะไม่มีอินเทอร์เน็ต เพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบ และมีกำลังขุดทั้งหมดในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นถึง 400 เปอร์เซ็นต์ ชี้ให้เห็นว่า มีคนเห็นมูลค่ากับ Bitcoin มากขึ้นเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจมาลงทุนขุด
ถึงแม้ตลาดจะเป็นขาลง แต่ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานแล้ว Bitcoin นั้นเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อีกไม่นานมันคงจะได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายแน่นอน ยังไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ Bitcoin ที่กำลังจะออกมาเร็ว ๆ นี้อีกเช่น Bitcoin ETF
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น