เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา อ้างอิงจาก Indian Express มีรายงานว่า ตำรวจอินเดียได้เข้าจับกุมหนึ่งในกลุ่มที่ใช้คริปโตในการต้มตุ๋นหลอกลวง ซึ่งมีเงินเกี่ยวข้องประมาณ 71.6 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 2,278 ล้านบาท การจับกุมดังกล่าวถือเป็นการจับกุมครั้งที่ 4 ของคดีต้มตุ๋นซึ่งดำเนินมานานกว่า 1 ปีแล้ว
โทเคนปลอม
อ้างอิงจากตำรวจ นาย Amit Lakhanpal ผู้สร้างคริปโตปลอมนี้ เป็น CEO ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และสร้างโทเคนขึ้นมาชื่อว่า Money Trade Coin (MTC) ซึ่งไม่เคยมีการลิสต์ขึ้นบนเว็บเทรดคริปโตเลยด้วยซ้ำ
ในแหล่งข้อมูลมีการระบุว่า พวกเขาได้จัดตั้งออฟฟิศที่เดลีและใช้เป็นสถานที่ในการเก็บเงินลงทุนจากนักลงทุน โดยการสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูง
อ้างอิงจากตำรวจ กลุ่มดังกล่าวได้เข้าไปทำการควบคุมราคา และเมื่อราคาของโทเคนร่วงลง นักลงทุนกลับไม่สามารถเทขายได้ เลยได้มีการร้องเรียนไปยังตำรวจเกิดขึ้นว่ามีการโกง, ระงับ และสมรู้ร่วมคิดเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นาย Lakhanpal ยังเคยจัดงานที่ดูไบโดยมีราชวงศ์ไปเข้าร่วม และมีการเคลมแบบผิด ๆ ว่าราชวงศ์เป็นหุ้นส่วนของเขาอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ทางตำรวจอินเดียก็ได้ประกาศเตือนไปแล้วว่า การลงทุนในคริปโตนั้นมีความเสี่ยงสูงต้องระวังให้ดีว่าอันไหนของจริง อันไหนเป็นแชร์ลูกโซ่
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนึ่งในคณะกรรมการของรัฐบาลอินเดียได้แนะนำว่าควรที่จะทำให้ Cryptocurrency ในประเทศนั้นถูกกฎหมายไปเลย เนื่องจากจะได้มีกฎระเบียบชัดเจน ในปัจจุบันอินเดียยังมีท่าทีคลุมเครืออยู่ทำให้นักลงทุนอาจเกิดความสับสนได้
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วัยรุ่นอินเดียวัย 18 ปีก็มีการข่มขู่ว่าจะระเบิดสนามบินหลังจากที่โดนขโมย Bitcoin ไปเช่นกัน เรียกได้ว่าการต้มตุ๋นหลอกลวงในอินเดียนั้นค่อนข้างเข้มข้นมากในตอนนี้ ควรมีกฎหมายเข้ามาควบคุมอย่างเร่งด่วน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น