<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมนักลงทุนยังคงศรัทธาใน Bitcoin ถึงแม้ราคามันจะร่วงอย่างหนัก ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปี 2018 ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin นั้นร่วงลงไปกว่า 81 เปอร์เซ็นต์จากจุดสูงสุดที่มันเคยทำได้ เรียกได้ว่าในช่วงปี 2017 นั้นเป็นยุคทองของคริปโตอย่างแท้จริง แต่ในปัจจุบันราคาของมันอยู่ที่ระดับเพียง 3,600 ดอลลาร์เท่านั้น ถ้าเกิดเป็นสินทรัพย์ทั่วไป ผู้คนคงคิดว่าถูกหลอกเป็นแน่ และราคามันคงจะดิ่งไปเหลือ 0 แล้ว แต่ทำไมนักลงทุนในวงการคริปโตยังคงศรัทธาใน Bitcoin กันอยู่ ?

ถ้าหากไม่นับว่า มันเป็นหนึ่งในกระแสมาแรง Bitcoin มีปัจจัยมากมายที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงทยอยซื้อเก็บ Bitcoin เรื่อย ๆ อยู่ โดยหลัก ๆ แล้วมีอยู่ 3 อย่างคือ

Lightning Network

Lightning Network คือหนึ่งใน Protocol สุดล้ำที่นักพัฒนา Bitcoin จำนวนมากกำลังเร่งพัฒนามันอย่างขันแข็ง เนื่องจากมันถูกเคลมว่า สามารถทำธุรกรรมได้มากขึ้น 1,000,000 รายการต่อวินาทีเลยทีเดียว มากกว่า VISA ที่ได้แค่หลักหมื่นต่อวินาทีเท่านั้น

หากมันพัฒนาจนเสร็จและถูกนำมาใช้จริงเมื่อไร ก็คงมีผู้คนจำนวนมากหันมาใช้ Bitcoin เป็นทางเลือกในการทำธุรกรรมออนไลน์แทน เพราะเนื่องจากความว่องไวแล้ว มันยังมีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องมีธนาคารก็สามารถทำธุรกรรมได้ และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก ๆ อีกด้วย

คิดในแง่ของความนิยมที่มันกำลังจะได้รับแล้ว ผู้คนก็คงรู้จักและหันมาใช้มันมากขึ้น ซึ่งจะผลักดันราคามันขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อไร Lightning Network จะพัฒนาเสร็จ อาจจะ 1 ปี, 2 ปี หรืออีก 5 ปีก็เป็นได้ แต่ก็มีการพัฒนาให้เห็นเรื่อย ๆ อย่างล่าสุดที่มีข้อมูลเผยว่า เครือข่าย Lightning Network นั้นรองรับได้หลายล้านดอลลาร์แล้วเช่นกัน

Halving

การ Halving นั้นเกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 4 ปี มันเป็นกลไกที่จะทำให้ Bitcoin นั้นหายากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะทำการลดรางวัลต่อ Block ที่นักขุดได้รับลงครึ่งหนึ่งเรื่อย ๆ

จากข้อมูลในอดีตนั้น ทุก ๆ ครั้งที่มีการ Halving เกิดขึ้น ราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นเสมอ ๆ อ้างอิงจากกราฟด้านล่างที่ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งได้สร้างไว้

จากกราฟจะสังเกตเห็นว่า การ Halving 2 ครั้งที่ผ่านมานั้นล้วนผลักดันให้ราคา Bitcoin ขึ้นไปทำ All-Time High ในระยะยาว และถ้ายังเป็นแบบนี้อีกเรื่อย ๆ ในอนาคต ในประมาณปี 2030 ราคา Bitcoin ก็มีสิทธิไปแตะ 1,000,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว ซึ่งเป็นไปได้หาก Bitcoin ยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็งเช่นนี้

สถาบันการเงินแสดงความสนใจ

ในแง่ของการลงทุน ถ้ามีความต้องการซื้อมากขึ้นและความต้องการขายมีราคาเท่าเดิม ราคาของมันก็ย่อมจะเพิ่มขึ้น และจากที่เราเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสถาบันการเงินมากมายทั่วโลกแสดงความสนใจที่จะลงทุนในคริปโต เช่น J.P. Morgan, Citi Group, Goldman Sachs, NYSE, Nasdaq และอื่น ๆ อีกมากมาย

สาเหตุที่พวกเขาแสดงความสนใจเนื่องจากเชื่อว่า Bitcoin นั้นเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถกระจายความเสี่ยงได้ เพราะว่ามันไม่มีความสัมพันธ์กับตลาดอื่น ๆ เช่นตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือตลาดทองเป็นต้น และได้ผลตอบแทนดีเสียด้วยจากความผันผวนอันรุนแรงของมัน

นอกจากนี้ยังมีบริษัทใหญ่ ๆ จำนวนมากเช่น Gemini ของสองพี่น้อง Winklevoss, VanEck และ SolidX ที่พยายามอย่างหนักให้ Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติ และนักลงทุนหลาย ๆ คนก็กำลังเฝ้ารอมัน เนื่องจากในกรณีของทองคำ หลังจากที่ ETF ได้รับอนุมัติราคาของมันขึ้นไปหลายเท่า และผู้คนก็คาดหวังเช่นเดียวกันกับ Bitcoin

ถึงแม้จะไม่รู้ว่า เมื่อไร Bitcoin จะได้รับการอนุมัติจากผู้ออกกฎหมายให้มีผลิตภัณฑ์ด้านการเงินแบบเต็มที่ แต่ที่แน่ ๆ คือมันจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอนตามความต้องการของนักลงทุนเจ้าใหญ่ ๆ จำนวนมาก

สรุป

ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านั้น นักลงทุน Bitcoin ถึงได้ทยอยเข้าซื้อเรื่อย ๆ และไม่ย่อท้อถึงแม้ราคาของมันจะร่วงลงมากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพราะพวกเขาเชื่อว่าในอนาคตมันต้องให้ผลตอบแทนที่ดีกับพวกเขาอย่างแน่นอน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น