อ้างอิงจากรายงานประจำปีเกี่ยวเศรษฐกิจทั่วโลกขององค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกสกุลเงินดิจิทัลว่า “ความรู้ใหม่” ในด้านระบบการเงินดิจิทัล
UN
อ้างอิงจาก UN พบว่าเทคโนโลยีของ Cryptocurrency และ Blockchain มีศักยภาพเป็นอย่างมากที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่และปฏิวัติวงการธุรกิจแบบเก่าและเพิ่มประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหประชาชาติได้แสดงความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล ในเดือนพฤษภาคมสำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) เปิดเผยความร่วมมือกับ IOTA ในการ “สำรวจว่านวัตกรรมเทคโนโลยีของ IOTA สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของ UNOPS ได้หรือไม่” ก่อนหน้านี้ UNOPS ก็ได้ใช้ Solution ของ Ripple ในการโอนเงินข้ามพรมแดนเช่นกัน
มีรายงานตัวใหม่จาก UN ที่มีชื่อว่า “World Economic and Social Survey 2018” เกี่ยวกับการเจาะลึกถึงข้อได้เปรียบของคริปโตและ Blockchain รวมไปถึงเทคโนโลยีแยกประเภท
คริปโตคือ “ความรู้ใหม่” ด้านการเงินดิจิทัล
“คริปโตคือความรู่ใหม่ด้านการเงินดิจิทัล และความนิยมในการใช้งานก็มีมากขึ้น เครือข่ายแบบ Decentralized หรือที่เรารู้จักกันดีอย่าง Bitcoin นั้นสามารถติดตามธุรกรรมได้ พวกมันช่วยสร้างมูลค่าให้กับเว็บเทรดคริปโต และทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต้องการการกำกับดูแลและสถาบันทางการเงินอีกด้วย”
Blockchain และคริปโตมีการใช้งานมากขึ้น
“เช่นโทเคนที่มีชื่อว่า climatecoin ถูกนำไปใช้ในตลาดซื้อขายก๊าซคาร์บอนผ่านช่องทาง Peer-to-peer และมันยังสามารถเชื่อต่อกับ loT (Internet of things)
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นบัญชีแยกประเภทในการกระจายข้อมูลและลงทะเบียนทรัพย์สินเช่นอาหาร ยา รวมไปถึงประเภทของข้อมูลต่าง ๆ UN กำลังหาหนทางในการลงทะเบียนตัวเด็ก ๆ บน Blockchain เพื่อต่อสู้กับการค้าเด็กอีกด้วย”
นวัตกรรมมาจากความน่าเชื่อถือ
นวัตกรรมนี้ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือและได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันและระบบทางการเงินแบบดั้งเดิมและมันจะเป็นสิ่งจูงใจและดึงดูดความสนใจให้เข้าร่วม เพราะความปลอดภัยของข้อมูลและระบบนั่นเอง
ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของ Blockchain ที่จะได้รับความไว้วางใจจากสถาบันที่สนับสนุนจากรัฐบาล และจะมาแทนที่ด้วยความไว้วางใจจากรหัสทางคอมพิวเตอร์ (Computer code) แทน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น