<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จากการสำรวจพบว่าตู้เอทีเอ็ม Bitcoin มากกว่า 50 ตู้ถูกติดตั้งอย่างถูกกฎหมายแล้วในรัสเซีย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดเผย: มี ATMs คริปโตกว่า 51 ตู้ตั้งอยู่ในประเทศรัสเซียอย่างถูกกฎหมายแล้ว ผลประกอบการจากตู้ ATMs นี้ต่อตู้อยู่ที่ประมาณ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ

ในตอนนี้มีตู้ Bitcoin ATMs ตั้งอยู่ในประเทศใหญ่ ๆ หลายแห่ง

ตู้ Bitcoin ATMs ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในหนึ่งปี กล่าวคือเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ต่อวันทะลุ 4,300 เครื่อง อ้างอิงข้อมูลจาก Coinatmradar ซึ่งตู้ ATMs ดังกล่าวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป

ประเทศรัสเซียเป็นประเทศ top 10 ที่มี BATMs ตั้งอยู่มากที่สุด อ้างอิงข้อมูลจาก  Russian Association of Crypto Industry and Blockchain (Racib) and the IT company Nanobit ซึ่งตู้ ATMs ดังกล่าว 51 ตู้ได้ทำการจดทะเบียนและดำเนินการตามกฎหมายของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งจากข้อมูลของ RBC เผยว่าตู้เอทีเอ็มคริปโตนั้นตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศรัสเซียหลายแห่ง เช่น มอสโก มีเครื่องเอทีเอ็มคริปโตตั้งอยู่ 9 เครื่อง และในเมืองออมสค์ (Omsk) รอสตอฟ  (Rostov) มีเครื่องเอมทีเอ็มคริปโตตั้งอยู่ 5 เครื่องส่วนในเมือง Voronezh และ Krasnoyarsk มีเอทีเอ็มคริปโตตั้งอยู่เมืองละ 3 เครื่อง

ในบรรดาผู้ให้บริการเครื่องเอทีเอ็มคริปโตดังกล่าว บริษัท Rusbit สัญชาติรัสเซียเป็นบริษัทที่มี market share มากที่สุด (47 เปอร์เซ็นต์) ตามมาด้วยบริษัท Investcoin24 (28 เปอร์เซ็นต์) และบริษัท BTC O Matic (19 เปอร์เซ็นต์) โดยสองเดือนก่อนหน้านี้รัสเซียได้เปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มคริปโตอย่างถูกกฎหมายกว่า 75 เครื่อง แต่ในเดือนกันยายนเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับสั่งให้หยุดการให้บริการตู้เอทีเอ็มคริปโตจำนวนหนึ่งที่เป็นตู้ทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับธนาคารกลางของรัสเซียซึ่งตู้เอทีเอ็มคริปโตดังกล่าว 22 เครื่องเป็นของบริษัท  Bbfpro

ข้อมูลจากการสำรวจพบว่าตู้ Bitcoin ATMs แต่ละตู้มีผลประกอบการประมาณ 27,000 เหรียญสหรัฐ ฯ ต่อตู้หรือประมาณ 320,000 เหรียญสหรัฐ ฯ ต่อปี โดยมีผลกำไรโดยประมาณที่ตู้เอทีเอ็มแต่ละเครื่องทำกำไรได้จะอยู่ที่ 1,800 เหรียญสหรัฐ ฯ ต่อเดือน

ความไม่แน่นอนของกฎหมายทำให้ตู้เอทีเอ็มคริปโตไม่สามารถถูกติดตั้งได้ในหลายพื้นที่

ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตแห่งรัสเซียกล่าวว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ตู้เอทีเอ็มคริปโตไม่สามารถตั้งได้ในหลายประเทศและหนึ่งในปัจจัยนั้นก็เป็นเพราะธนาคารกลางเข้าไปควบคุม อีกปัจจัยหนึ่งก็คือค่าอุปกรณ์มันสูง โดยตู้เอทีเอ็มหนึ่งตู้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 – 13,000 เหรียญสหรัฐ ฯ และความหวั่นเกรงว่าจะมีการก่ออาชญากรรมเพราะมีข่าวออกมาให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ในเรื่องของการที่ตู้เอทีเอ็มคริปโตถูกทำลายหรือถูกขโมยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตู้เอทีเอ็มคริปโตไม่ได้ถูกติดตั้งอย่างแพร่หลาย

ปัญหาหลักคือความไม่เข้าใจเกี่ยวกับกรอบการกำกับดูแลในอุตสาหกรรมคริปโตซึ่งในตอนนี้กฎหมายของรัสเซียไม่ได้ห้ามการติดตั้ง BATMs แต่สถานะทางกฎหมายของคริปโตเคอร์เรนซีก็ยังไม่ได้มีกรอบกำกับออกมาชัดเจนทำให้บริษัทติดตั้งเอทีเอ็มคริปโตใหญ่ ๆ ไม่กล้าเข้ามาติดตั้งตู้ในตลาดรัสเซีย

จากการให้ข้อมูลของนาย  Andrei Bedrin หัวหน้าด้านไอทีของ Nanobit กล่าวว่าอาจจะมีการเพิ่มตู้เอทีเอ็มคริปโตสองเท่าในอนาคตถ้าหากกฎหมายรัสเซียได้รองรับสกุลเงินดิจิทัลแล้ว

สภานิติบัญญัติแห่งรัฐเซีย State Duma กำลังทำการพิจารณาร่างกฎหมาย 3 ฉบับเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งร่างกฎหมายฉบับแรกเปิดให้มี First Reading ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วและจะมี Second Reading อีกทีในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาก็มีการทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวในหลายประเด็น เช่น ยกเลิกการให้นิยามคริปโตเคอร์เรนซีและให้นิยามคำว่าสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลโดยให้หมายความรวมถึงทั้งเหรียญต่าง ๆ และโทเค็น

อ้างอิงจาก news.bitcoin

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น