<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CTO ของ Ripple ยังยืนยันที่จะเถียงว่า “XRP มีความเป็น Decentralized มากกว่า Bitcoin”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย David Schwartz หัวหน้าด้านเทคโนโลยีของ Ripple Labs บริษัทสตาร์ทอัพ Fintech ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ decentralized ledgers และสินทรัพย์ดิจิทัล ได้กล่าวว่าระบบนิเวศของ Ripple นั้นสร้างอยู่บน XRP Ledger และมีความเป็น decentralized 

โดยอ้างอิงจากซีรี่บน YouTube นามว่า “Ripple Drop” ที่บริษัท Ripple ทำขึ้น นาย Schwartz ได้พูดเกี่ยวกับความ decentralized ของ XRP ต่อไปอย่างตรงไปตรงมา นาย Schwartz เป็น  programmer & cryptographer ที่ทำธุรกิจด้านนี้ร่วม 20 ปีแล้วและสาเหตุที่เขาตัดสินใจเปิดบริษัทก็เพราะเขาเห็นความ decentralized ของ XRP ซึ่งเขาเชื่อว่า XRP นั้นมีความ decentralized มากกว่า Bitcoin และ Ethereum และมากกว่าเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ

โดยในช่วงวินาทีที่ 0:37 นั้น เขาได้กล่าวว่าตอบคำถามพิธีกรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Ripple ในช่วงปีที่ผ่านมาว่า “โอ้ว มันจะต้องเป็นเรื่องของการเพิ่มขึ้นของความเป็น Decentralization แน่นอน มันมีความเป็น decentralized มากกว่าทั้ง Ether และ Bitcoin และตอนนี้เครือข่ายของเราก็ทำงานอยู่แบบ decentralized ในรูปแบบที่เหรียญคริปโตอื่น ๆ ทำไม่ได้”

นอกจากนั้นเขายังได้พูดถึง Proof of Work ด้วยว่า PoW ไม่ได้บรรลุจุดประสงค์ของความเป็น decentralized อย่างที่ได้ตั้งใจไว้ แล้วเขาก็พูดถึงความล่าช้าในการทำธุรกรรม Bicoin ที่เขาบอกว่าเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเหรียญแรกของโลกนี้กินเวลา Block ละ 10 นาทีหรือในบางกรณีก็อาจเป็นชั่วโมง

ความเห็นเรื่อง Decentralized ของนาย Schwartz เกิดขึ้นหลังจากนาย Brad Garlinghouse ออกรายการในยูทูปซึ่งทั้งสองต่างมีความเห็นคล้ายกัน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่านาย Garlinghouse ได้ออกมากล่าวว่าที่ผู้คนบอกว่า XRP มัน Centralized นั้นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง แล้วเขายังกล่าวต่อไปว่าผู้คนกำลังเผยแพร่ความกลัว ความไม่มั่นใจและความสงสัยไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องขัดกับธรรมชาติและหลักการของ XRP แล้วเขาก็ยังมั่นใจด้วยอีกว่า XRP Ledger มีความ decentralized มากกว่า Bitcoin ดังที่ทางสยามบล็อกเชนเคยรายงานเอาไว้ ซึ่งทางด้านของนาย Brad Garlinghouse ได้กล่าวเอาไว้ว่า:

“XRP Ledger มันมีความ Decentralized เพราะทาง Ripple มี 7 validators ด้วยกันซึ่งคิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์จากจำนวน public validators ทั้งหมด ในขณะเดียวกันหากเป็น Bitcoin Ledger หรือ Ethereum Ledger จะมีนักขุดที่มีพลังการพลังการขุดเกิน 50% ของเครือข่ายทั้งหมดอยู่จำนวนน้อย”

ก่อนหน้านี้ Ripple ถูกคำครหาของทางกลุ่มชุมชนผู้ใช้งานคริปโตว่าเป็นเหรียญที่มีความเป็น centralized สูงมาก เนื่องจากว่าพวกเขาไม่เปิดให้กลุ่มคนธรรมดาทั่วไปสามารถเปิด node ยืนยันธุรกรรมได้ (จนกระทั่งล่าสุด) รวมถึงยังสามารถ freeze เหรียญในกระเป๋าของผู้ใช้งานเมื่อไรก็ได้ ตามที่ทาง Ripple ต้องการ

ระบบนิเวศของ Ripple ถูกนำไปใช้งานมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้จะถกเถียงกันเท่าไรว่า XRP มัน decentralized หรือไม่อย่างไรก็คงจะไม่ได้ประโยชน์นอกจากจะพิจารณาจากเว็บเทรดแลกเปลี่ยนคริปโตนั้นมีการใช้ระบบนิเวศของ Ripple มากขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต SBI Holdings’ VCTrade เริ่มเปิดตัวให้ถอนเหรียญ BTC และ ETH ส่วน CoinGate ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินด้วยคริปโตก็เริ่มเปิดให้ชำระเงินด้วย XRP ในร้านค้าที่ทางบริษัทเป็นหุ้นส่วนด้วย นอกจากนี้ทาง SBI Holdings  ก็ได้เริ่มเป็นหุ้นส่วนกับ R3 ที่สนับสนุน Ripple แล้ว

อ้างอิงจาก ethereumworldnews

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น