อัยการสั่งฟ้องให้ยึดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ของผู้ค้ายาออนไลน์ชาวแคนนาดาโดยมีมูลค่ารวมทั้งหมด 1.4 ล้านแคนนาดาดอลลาร์ (1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่เขาอ้อนวอนตำรวจไม่ให้ยึด bitcoin จำนวนครึ่งหนึ่งของ 288 BTC ทั้งหมด เนื่องจาก bitcoin ที่เขาได้มานั้น เขาอ้างว่าครึ่งหนึ่งไม่ได้มาจากการก่ออาชญากรรมทั้งหมด
คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐที่เอาระบบที่อยู่นอกเหนือการตรวจสอบดูแลของรัฐออกไป
ในเดือนธันวาคมนายMatthew Phan รับสารภาพว่าเขาซื้ออาวุธปืนและอุปกรณ์เก็บเสียงมาโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งครอบครองยาเสพติด โดยอ้างอิงจากบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Toronto Star ตำรวจจาก U.S. Homeland Security ได้ใช้วิธีล่อซื้อยาเสพย์ติดจากเขาผ่าน dark web โดยใช้ Bitcoin เป็นตัวกลาง จนกระทั่งภายหลังทางตำรวจสามารถจับกุมนาย Phan ได้ในท้ายสุด
คดีนี้เป็นคดีแรกที่มีการนำกฎหมายของแคนนาดามาริบ bitcoin รวมทั้งการสร้างเว็บมืดที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีมาเป็นกับดักในการจับกุม โดยการจับกุมครั้งนี้ตำรวจต้องต่อสู้กับเทคโนโลยีที่ปิดสัญญาณเรดาร์ของเจ้าหน้าที่รัฐ และเมื่อทราบแน่ชัดว่ากรณีนี้มีต้นตอมาจากอาชญากรรม ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความสนใจว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้จะปราบปรามระบบที่อยู่นอกเหนือจากการตรวจสอบดูแลของรัฐได้อย่างไร
ตำรวจได้แอบสะกดรอยตามดูนาย Phan ในขณะที่เขาเดินไปที่ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อเอาปืน Glock ที่เขาซื้อจากเว็บมืด ซึ่งอันที่จริงแล้วคือปืนยิงพลุ และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้หมายค้นคอนโดของนาย Phan โดย Erin Pancer อัยการผู้สั่งฟ้อง ได้เปิดเผยในศาลว่าทีมค้นได้พบกัญชา โคเคน เคตามีน และ MDMA หลายพันกรัม รวมทั้งจดหมายที่มีการระบุที่อยู่ก็ถูกนำมาเป็นหลักฐานในการสั่งฟ้องเรื่องการค้ายา
ระหว่างการค้นคอมพิวเตอร์ของ Phan นั้น ตำรวจก็พบและยึด wallet ดิจิตอลที่มี bitcoin จำนวน 288 BTC และนาย Dwayne King ตำรวจในทีมกล่าวว่าเขาได้ทำการยึด bitcoin จำนวนนั้นทันทีเพื่อไม่ให้มันถูกโอนไปยังบุคคลอื่น
นาย King กล่าวว่า “ไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาชญากรเก็บสิ่งมีค่าที่ตนได้มาจากการก่ออาชญากรรมในกล่องรองเท้าที่ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าหรือเก็บไว้ที่ใต้ฟูก แต่ตอนนี้คริปโตเคอเรนซีได้เปลี่ยนที่เก็บที่เคยเป็นกล่องรองเท้าไปแล้ว”
ตำรวจลากเอาบริษัทเอกชนให้มาเป็นพยาน
อีกแง่หนึ่งของคดีที่เกี่ยวกับหุ้นส่วนในทางธุรกิจเป็นสาเหตุให้อัยการสั่งฟ้อง คือ King อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตอนนี้ทำงานกับบริษัทเอกชน และ David Jevans ซีอีโอของ Ciphertrace Inc. ถูกนำไปเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ โดย Jevans ให้การว่าเส้นทางการทำ digital transaction ของ Phan นั้นส่อให้เห็นว่าเป็นการค้ายา นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมว่ายังมีธุรกรรมที่ทำในเว็บมืดอีกมากมายเช่น Agora และ Evolution ที่ปรากฏ bitcoin address ของนาย Phan อยู่
นายKing แนะนำว่าความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนจะช่วยทำลายอาชญากรรมใต้ดินได้ ซึ่งเหมือนเป็นการให้แสงสว่างกับเจ้าหน้าที่รัฐหลาย ๆ คน ที่ตามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตไม่ทัน “สิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่คำนึงถึงคริปโตเคอเรนซีในฐานะที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมากกว่าสิ่งที่เป็นไปได้ว่าจะเกิด ซึ่งในตอนนี้องค์กรหลายองค์กรก็ไม่มีความพร้อมที่จะไปสอบสวนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี”
Phan อ้างว่าเขาสนใจเกี่ยวกับการซื้อขายทองโดยใช้คริปโตบนเว็บมืด แต่อย่างไรก็ตามอัยการผู้สั่งฟ้องได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในทางธุรกิจที่ถูกกฎหมายของเขาทั้งหมด ในขณะที่ศาลยอมรับว่า Phan อาจจะเคยใช้คริปโตอย่างถูกกฎหมายมาก่อน แต่ภายหลังก็มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าเขาไปเกี่ยวข้องกับการค้ายาและการซื้อขายปืนใหญ่โดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลจะตัดสินเรื่องการริบ bitcoin ของ Phan ในวันที่ 4 เมษายน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น