<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ผลักดันให้เชียงใหม่ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลและ Blockchain ไม่ใช่เรื่องยาก” โดยรองผู้ว่าจังหวัด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าความนิยมของ Blockchain และ cryptocurrency ในเมืองเชียงใหม่นั้นกำลังจะมีมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ในสัปดาห์นี้มีการจัดงานอีเว้นท์ในด้านดังกล่าวในจังหวัดชียงใหม่ถึงสองงาน

โดยอ้างอิงจากการกล่าวเปิดงานประชุม CNX Conference ที่ถูกจัดขึ้นในโรงแรม ONE Nimman ในจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมากล่าวเปิดงานประชุมดังกล่าวโดยเผยว่านโยบายการผลักดันให้เมืองเชียงใหม่เป็น cashless society หรือสังคมไร้เงินสด ได้ก่อให้เกิดกระแสสินทรัพย์ดิจิทัล และ Blockchain ขึ้นมา

เขายังเสริมว่าหลาย ๆ ฝ่ายนั้น “เริ่มออกมาให้ความเห็นทั้งด้านบวก และด้านลบ ไม่ว่าจะเป็น ‘เงินแห่งอนาคต’ หรือเป็นความหวังใหม่ในการทำธุรกรรม การชำระสินค้า และบริการ” นอกจากนี้ยังกล่าวว่า

“ซึ่งอาจจะมาแทนที่ธนบัตรที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้”

แต่อย่างไรก็ตาม นายมนัส กล่าวต่อหลังจากนั้นอีกว่าเขา “ยังไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลเราะไม่มีคนกลางคอยกำกับดูแล” และเทคโนโลยี Blockchain นั้นยังเป็นเพียงแนวคิดที่จะต้องถูกนำมาทดลองปฏิบัติก่อน เพื่อให้เกิดตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมตามมา

ปัจจุบันการเคลื่อนไหวทางด้าน Blockchain ในจังหวัดเชียงใหม่นั้นอาจถือได้ว่ายังคง ‘ใหม่’ อยู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข้อมูลจากแพลทฟอร์ม Bitcoin Map เผยให้เห็นว่ามีร้านค้าเป็นบางร้านในจังหวัดเชียงใหม่ที่เริ่มรับ Bitcoin เป็นอีกช่องทางในการจ่ายเงินแล้ว ทว่าในสัปดาห์นี้ เราได้เห็นการเคลื่อนไหวทางด้านงานอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับ Blockchain สองงานในสัปดาห์เดียวกัน ซึ่งงานแรกก็คือ Block Mountain ที่ถูกจัดโดย Swaple, Bug Barn Tech Community และ CNX Conference ที่ถูกจัดโดย Nextzy, DCEN และ Crypto Beach

แม้จะยังคงมีทีท่าที่คอยเฝ้าระวัง แต่นาย มนัส ก็กล่าวว่าการผลักดันสังคมไร้เงินสดนั้นไม่ใช่เรื่องที่มีความยากอะไร แต่จะต้องมี community ที่คลอยผลักดัน

“ผมมองว่าการที่จะผลักดันจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นสังคมไร้เงินสด โดยให้มีการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลและโทคโนโลยี Blockchain ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เราต้องมีชุมชนด้านนี้อย่างจริงจัง ที่พร้อมจะสนับสนุนให้มีการช้งาน และมีการเผยแพร่ความรู้ให้แก่บุคคลที่สนใจ”

ภายหลังเขากล่าวว่าเชียงใหม่นั้นโชคดี เพราะว่า “รัฐบาลไทยมีความคิดเชิงบวกกับสินทรัพย์ดิจิทัล และออกกฎหมายมาสนับสนุนเรื่องดังกล่าว”

ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการคลังและ ก.ล.ต. ได้ออกมาประกาศออกใบอนุญาตประกอบสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับแพลทฟอร์มซื้อขาย Bitcoin ในไทยอย่างเช่น Satang, Bitkub, Bx และ Coins.co.th ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถเปิดให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโตได้อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้การกำกับและดูและของหน่วยงานรัฐบาลนั่นเอง

ปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่นั้นถือเป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ จังหวัดที่กำลังพยายามจะผลักดันให้เป็น “สังคมไร้เงินสด” อย่างแท้จริง โดยจะสังเกตได้จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่นจากจีน ที่สามารถเข้ามาท่องเที่ยวและซื้อสินค้าในเชียงใหม่ได้ผ่านแพลทฟอร์มการจ่ายเงินอย่าง WeChat และ Alipay ซึ่งทำให้เม็ดเงินนั้นไหลเข้ามาได้รวดเร็วกว่าเงินสด เนื่องจากว่าแพลทฟอร์มดังกล่าวมีแอพให้นักท่องเที่ยวสามารถกดจ่ายได้อย่างสะดวกสบาย

ชาวเชียงใหม่นั้นสามารถที่จะเข้าไปร่วม Commnunity ของทั้งสอง Community ได้ เพื่อศึกษาหาความรู้, พูดคุย และหาเพื่อนที่ชอบในด้าน Blockchain และคริปโตเหมือนกันได้ที่ DCEN และ Bug Barn Tech Community

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น