<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นิตยสาร Forbes กล่าวว่า “Ripple คือสิ่งหลอกลวง” แต่กลุ่มผู้ใช้งานมองว่าเป็นการก่อกระแส

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Jason Bloomberg นักเขียนจากนิตยสาร Forbes และผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ได้เขียนบทความ ๆ หนึ่งที่กล่าวว่าเหรียญอันดับสามของโลกอย่าง Ripple นั้นคือสิ่งหลอกลวง

สืบเนื่องมาจากบทความของเขาก่อนหน้านี้ที่มีการกล่าวถึง JPM Coin นั้น นาย Jason ได้กล่าวถึงสัญลักษณ์ที่เผยให้เห็นว่าเหรียญ Ripple นั้นคือสิ่งหลอกลวง ภายหลังก็มีบทความอื่น ๆ ออกมาเขียนโต้แย้งของเขา ว่าให้หาที่มาว่านาย Jason นั้นนำเอาข้อมูลมาจากไหน โดยเขากล่าวตอบกลับว่ามาจากหลาย ๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น และตุรกี

จนภายหลังเขาไม่ยอมแพ้ ได้ออกมาเขียนบทความแยกอีกบทความหนึ่งที่โฟกัสไปที่เหรียญ Ripple ว่ามัน “หลอกลวง” อย่างไร

โมเดลธุรกิจของ Ripple คือการปั่นราคาขึ้นลงหรือไม่

นาย Jason กล่าวว่าโมเดลธุรกิจของ Ripple นั้นใช้เทคนิคการปั่นราคาขึ้นแล้วทุบ (pump and dump) ด้วยการที่มันมีหลายวิธีในการเพิ่มมูลค่าเหรียญ XRP นั้น นาย Jason เผยว่า Ripple ได้ใช้เทคนิคด้านล่างนี้ในการปั่นราคาตามที่เขาเคลม

โดยเขากล่าวว่าสัญญาณอย่างแรกก้คือ การที่ Ripple นั้นแยกแบรนด์ตัวเองออกมาจาก XRP และบอกว่าเหรียญพันล้านไม่ได้ถูกปล่อยออกมา แต่มันถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มชุมชน และมีความเป็น open source

อย่างไรก็ตาม เขายังกล่าวต่อไปอีกว่าทาง Ripple นั้นเป็นผู้ถือเหรียญ XRP ที่เยอะที่สุด ทว่าเหรียญเหล่านั้น นาย Jason บอกว่าทางทีมไม่ได้เป็นผู้สร้างเหรียญนั้นขึ้นมาเอง แต่ได้รับมันมาจากทีมผู้สร้างเป็นของขวัญ

ส่วนข้อถกเถียงข้อที่สองก็คือ Ripple สามารถที่จะเลือกได้ว่าใครจะเป็นคนประมวลผลธุรกรรมก็ได้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ XRP นั้นมีความเป็น centralized ซึ่งด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้นักลงทุนในวงการคริปโตมองว่ามันไม่ควรจะเป็นเหรียญคริปโตเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากว่ามันไม่มีความเป็น decentralized

ข้อโต้แย้งอื่น ๆ

นอกเหนือจากเหตุผลข้างต้นที่นาย Jason กล่าวมา เขาเผยว่ายังมีเหตุผลในด้านอื่น ๆ อีกที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเหรียญอันดับสามของโลกตัวนี้คือสิ่งหลอกลวง

เขากล่าวว่าโปรแกรม RippleNet Accelerator ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2017 ที่จะให้รางวัลแก่สถาบันการเงินที่ตกลงจะโปรโมทระบบการจ่ายเงินของ RippleNet กับลูกค้าของพวกเขา โดยงบประมาณของโปรแกรมนี้ถูกตั้งไว้อยู่ที่ 300 ล้านดอลลาร์

ซึ่งนาย Jason อ้างว่าทาง Ripple นั้นมีหุ้นส่วนที่เป็นธนาคารอยู่ทั่วโลก และได้ทำการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับพวกเขาเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ของทาง Ripple และโปรโมทมันอีกด้วย

นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงการถกเถียงของเหรียญ XRP ว่ามันเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ โดยเขาได้นำมันมาเทียบกับเหรียญ JPM Coin ที่ไม่สามารถนำมาถูกซื้อขายได้ ซึ่งแตกต่างจาก XRP ดังนั้น JPM Coin จึงไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่ XRP อาจจะใช่

ท้ายสุดนี้เขาได้สรุปว่าเหรียญ XRP นั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างจ่าก PayPal หรือ Swift ที่พวกเขาสัญญาว่าจะเข้ามาแทนที่มันในอนาคตเลย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น