<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง OneCoin ถูกจับกุมแล้ว กำลังถูกฟ้องร้องโดยอัยการสหรัฐฯ ข้อหาฉ้อโกงและแชร์ลูกโซ่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อัยการเขตของศาลเขตฝั่งใต้ของนิวยอร์คได้ออกมาประกาศว่าได้ทำการสั่งฟ้องผู้ก่อตั้งเหรียญแชร์ลูกโซ่ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกในขณะนี้นามว่า OneCoin รายงานดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ผู้ก่อตั้ง OneCoin นั้นประกอบไปด้วย Konstantin Ignatov และพี่สาวของเขา Ruja Ignatova โดยรายงานเผยว่าทั้งสองคนนี้ได้ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2019 ในเมืองลอส แองเจเลส โดยทั้งคู่ได้ถูกตั้งขอหา “ฉ้อโกงด้วยการโอนเงินข้ามประเทศ, ฉ้อโกงหลักทรัพย์, และการฟอกเงิน” โดยพวกเขาทั้งสองนั้นได้ล่อให้นักลงทุนเข้ามา “ลงเงินในเหรียญแชร์ลูกโซ่ตัวนี้ด้วยมูลค่านับพันล้าน”

OneCoin นั้นถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ในเมือง Sofia ประเทศบัลแกเรีย โดยธุรกิจดังกล่าวนั้นให้บริการด้านธุรกิจเครือข่ายที่จะต้องชวนคนมาสมัครต่อกัน โดยผู้ชวนนั้นจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเพื่อเป็นแรงจูงใจในการไปชวนคนอื่นต่อ ส่วนผลิตภัณฑ์นั้นก็คือแพคเกจที่ “อ้าง” ว่าจะใช้นำไปขุดเหรียญอื่นต่อได้ รายงานล่าสุดเผยว่ามีสมาชิกที่ทำธุรกิจ OneCoin ทั่วโลกประมาณมากกว่า 3 ล้านคน

เมื่อนาย Ignatov ถูกสมาชิกถามว่าจะสามารถถอนเงินได้เมื่อไร ในงานประชุมที่ลาส เวกัส เขากล่าวว่า “ถ้าหากว่าคุณมาที่นี่เพื่อถอนเงิน ออกจากห้องนี้ไปได้เลย เพราะว่าคุณไม่เข้าใจว่าโปรเจ็คนี้มันคืออะไร” กล่าวโดยนาย Geoffrey S. Berman หรืออัยการของศาลเขตแมนแฮตตั้น

“ตามที่ทางเราได้ฟ้องร้องไป จำเลยพวกนี้ได้สร้างบริษัทคริปโตมูลค่าหลายพันล้านขึ้นมา ด้วยการโกหกและหลอกลวง พวกเขาสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำ แต่ธุรกิจนี้ก็เป็นแชร์ลูกโซ่ที่มีแค่ควันและกระจก มากกว่า 0 และ 1 นักลงทุนนั้นได้กลายเป็นเหยื่อ ในขณะที่จำเลยก็รวยขึ้น ที่สำนักงานของเรามีประวัติที่โชกโชนในการตั้งเป้า, จับกุม และสั่งฟ้องมิจฉาชีพได้อย่างสำเร็จ และคดีนี้ก็ไม่ต่างกัน”

การสืบสวนพบว่าในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2014 และช่วงไตรมาสที่สามของปี 2016 นั้นบริษัท OneCoin สามารถทำเงินได้ถึง 3.353 พันล้านยูโร และได้กำไรถึง 2.232 พันลัานยูโร

นาง Cyrus R. Vance, Jr. หรืออัยการของศาลเขตนิวยอร์คกล่าวว่า “จำเลยเหล่านี้ใช้วิธีแชร์ลูกโซ่แบบเก่า ๆ บนแพลทฟอร์มใหม่ ๆ ที่ประกอบไปด้วยระบบการเงินของนิวยอร์ค และหลอกลวงนักลงทุนได้เงินมานับพันล้าน”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น