สรุปโดยย่อ
- การลงของราคา Bitcoin จากจุดสูงสุด ณ ราคา $20,000 ได้เริ่มนับในเดือนธันวาคม ปี 2017 ซึ่งได้ก่อให้เกิดรูปแบบการตกลงในช่วงของราคาในแบบเดียวกันกับที่จะต่อยอดให้เกิดการไต่ระดับเป็นเวลา 18 เดือนไปสู่ช่วงตลาดขาขึ้นในระยะยาว ซึ่งพบเห็นมาก่อนในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2015
- ถ้าลำดับแบบเดียวกันนั้นได้เกิดขึ้น Bitcoin นั้นน่าจะสามารถสังเกตให้เห็นได้ถึงรูปแบบของกราฟที่วิ่งทะลุกรอบแนวรับหรือแนวต้านที่สร้างไว้ในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนว่าจะเป็นขาขึ้นเล็กน้อยนั้นยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ อีกทั้งยังไม่สามารถกล่าวว่าเป็นการไต่ขึ้นของราคาได้หากอัตรา moving average ในช่วงคาบ 21 สัปดาห์นั้นยังคงมุ่งหน้าลงพื้น
- การที่ตลาดดูเหมือนจะเป็นช่วงขาขึ้นในระยะสั้นจากการแสดงของกราฟเทียน doji แบบหางยาวซึ่งพบในช่วงวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ จะพิจารณาว่าเป็นความจริงได้ถ้าหากราคาพุ่งขึ้นไปเกิดเพดานราคาที่ $4,040 ภายในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงอันเป็นการยืนยันช่วงคตลาดขาขึ้นนอกกราฟเทียนแบบหัวกลับในกราฟช่วงคาบเวลา 3 วัน ซึ่งจะเป็นการเกิดโอกาศให้มีการทดสอบการพุ่งไปแตะราคาสูงสุดในช่วงนี้ ณ เพดานราคาที่ $4,200.
- อย่างไรก็ตามการที่ราคาผิดไปจากที่คาดหลายครั้งในการพุ่งทะลุเพดานราคาที่ $4,040 นั้นอาจก่อให้เกิดการดึงกลับของราคาลงไปที่ $3,927 (ราคาต่ำสุดของวันที่ 17 เดือนมีนาคม ) ได้
ตลาด Bitcoin (BTC) ได้จบช่วงเวลาตลาดขาลงเป็นเวลา 14 เดือนโดยการที่กราฟแสดงให้เห็นถึงรูปแบบราคาที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การทยานขึ้นของราคาในปี 2015
Bitstamp ได้มีการดำเนินการซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin อยู่ที่ราคา 4,030 ดอลลาร์ในขณะนี้ โดยราคาได้ลงมาแตะช่วงต่ำสุดที่ $3,122 ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และแม้ว่าราคาจะเริ่มขยับขึ้นมาเป็นช่วงๆแล้ว ราคาดังกล่าวยังคงอยู่ที่ 79.85 เปอร์เซ็นของราคาสูงสุดตลาดการ คือ $20,000 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปี 2017
การเทขายของสกุลเงินดังกล่าวได้ก่อให้เกิดรูปแบบของช่วงที่ราคาลงมาแตะราคาสูงสุดและต่ำสุดซึ่งต่ำลงกว่าเดิม โดยศัพท์ทางเทคนิคในกรณีนี้เรียกว่า descending channel
Bitcoin ได้สร้างรูปแบบของการขึ้นลงของราคาซึ่งมีความคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดขาลงในช่วงปี 2014–2015 โดยสิ่งที่สำคัญคือการที่ราคาพุ่งทะลุกรอบแนวต้านขาลงซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2015 ส่งผลให้เกิดตลาดขาขึ้นตามมาเป็นช่วงเวลา 2 ปี
กล่าวโดยสรุปคือ ช่วงสำคัญที่ราคาจะพุ่งทะลุกรอบแนวต้านในช่วงการตกลงของราคาครั้งสุดท้ายน่าจะสามารถพิจารณษได้ว่าเป็นสัญญาณของการกลับมาของตลาดขาขึ้นในระยะยาว
กราฟเส้นรายสัปดาห์
อย่างที่เห็นได้ด้านบน การเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วง 14 เดือนนั้นคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2014 และ 2015อย่างมาก
ช่วงตลาดขาลงเดิมได้แสดงถึงดัชนี relative strength index (RSI) ในคาบเวลา 14 สัปดาห์ ซึ่งได้แตะระดับที่มีการขายส่วนเกินต่ำกว่า 30 ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2015
อีกทั้งการเทขายในช่วงราคาสูงสุดตลอดกาลในช่วงธันวาคมปี 2017 นั้นได้จบลงโดยที่ค่าดัชนี RSI ตกลงมาต่ำกว่า 30 เช่นเดียวกันในเดือนธันวาคม ปี 2018
และหากประวัติศาสตร์ได้มีการซ้ำรอยอีกครั้ง สกุลเงินคริปโตดังกล่าวน่าจะได้พบกับการขึ้นของราคาทะลุกรอบแนวต้านในช่วงครึ่งปีหลังที่จะถึงนี้
การเปลี่ยนแปลงในช่วงต้นซึ่งทำให้ราคาขึ้นสูงกว่าขอบแนวต้านส่วนบน ซึ่งในขณะนี้อยู่ที่ $4,070 น่าจะพิจารณาได้ว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงถึงสัญญาณการมาถึงของตลาดขาขึ้น อีกทั้งราคาซื้อขาย Bitcoin นั้นกำลังอยู่ในระดับก่อนที่จะทะลุกรอบแนวต้าน ณ เวลาที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวนี้
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในช่วงต้นนี้น่าจะพิจารณาได้ว่าเป็นการขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวหรืออาจจะเป็นการที่ขาดกระแสตอบรับที่จะช่วยพยุงราคาไว้ ตราบใดที่อัตรา moving average (MA) ในคาบเวลา 21 สัปดาห์นั้นยังคงดิ่งลงอยู่ และในขณะที่ได้มีการเขียนข่าวนี้ อัตราแนวต้าน MA อยู่ที่ราคา $4,073
กราฟรายวัน
ในรูปแบบช่วงราคาสูงต่ำสุด และราคาสูงสูงสุด รวมถึงอัตรา MAs ในคาบเวลา 5 และ 10 วัน ซึ่งแสดงในกราฟรายวันนั้นบ่งบอกถึงทิศทางของแนวต้านที่สูงที่สุดนั้นอยู่ในทิศทางขาขึ้น
กล่าวโดยสรุปแล้ว สกุลเงินคริปโตดังกล่าวน่าจะได้รับการยืนยันทิศทางตลาดขาขึ้นเกินจากกราฟเทียนแบบกลับหัวในกราฟช่วงคาบเวลา 3 วันโดยมีราคาขึ้นไปสูงกว่า $4,040 อย่างที่ได้มีการพิจารณาไปเมื่อวาน และน่าจะเป็นการเปิดทางให้ราคาขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในช่วงนี้ที่ราคา $4,200
อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดขาขึ้นในระยะสั้นน่าจะเปลี่ยนแปลงไปหากราคานั้นตกลงกว่า $3,927 (ราคาต่ำสุดของวันที่ 17 เดือนมีนาคม )
ที่มา : coindesk
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น