ธนาคาร World Bank ได้ออกมากล่าวชื่นชมเทคโนโลยีกระจายศูนย์ (distributed ledger) และ xRapid ของ Ripple ว่ามีศักยภาพที่จะมาปฏิวัติการโอนเงินระหว่างประเทศได้
โดยอ้างอิงจากโพสต์ที่ถูกเขียนขึ้นโดยนาย Marco Nicoli หรือผู้บริหารจากธนาคาร World Bank และสมาชิกของ Better Than Cash Alliance นั้น เขากล่าวว่าการโอนเงินแบบเก่านั้น “ช้า และไม่โปร่งใส” นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีตัวกลาง ที่มักจะทำให้มีต้นทุนที่สูง และใช้เวลาโอนช้า ซึ่งข้อเสียเหล่านี้เองทำให้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย
“ข้อบกพร่องเหล่านี้ทำให้อุตสาหกรรมการชำระเงินข้ามพรมแดนไม่พัฒนา เนื่องจากการหยุดชะงักและไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ จนบางคนเห็นว่า distributed ledger technologies (DLT) นั้นมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดยแท้จริงแล้วการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B มีลักษณะตามแบบดั้งเดิมโดยการกระจายตัวและความโปร่งใส เป็นกรณีการใช้งานที่เป็นไปได้สำหรับการใช้งาน distributed ledger technologies (DLT) ได้
การใช้งาน distributed ledger technologies (DLT) ยังช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนในเชิงปฏิบัติ และปรับปรุงให้ระบบมีความโปร่งใส พร้อมทั้งสามารถที่จะตรวจสอบย้อนการโอนได้ง่าย ซึ่งเจ้าสิ่งนี้เองที่จะช่วยให้เกิดแรงผลักดันที่จะลดผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมบริการโอนเงินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการเพิ่มความโปร่งใสของการทำธุรกรรมจะสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความเชื่อมั่นในภาคธนาคารในอุตสหกรรมการโอนเงินได้มากขึ้น นอกจากนี้แล้วการแก้ปัญหาโดยใช้ distributed ledger technologies (DLT) ยังช่วยจัดการปัญหาด้วยการที่ทำให้ผู้ให้บริการโอนเงินดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องมี correspondent banking relationship อีกด้วย.”
ตามรายงานยังได้บอกอีกว่ามีการยกย่อง xRapid ของ Ripple อย่างเป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นเหมือนกับการแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงโดยให้คำนิยามว่า การทดสอบอย่างแข็งขันในตลาด
“เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา Ripple ที่เป็นบริษัทด้าน Fintech ได้ใช้ xRapid ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินข้ามพรมแดน distributed ledger technologies (DLT) ในตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเม็กซิโกที่ได้มีการทดสอบกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้มากถึง 40 – 70 เปอร์เซ็นต์ เวลาชำระเงินเฉลี่ยเพียง 2 นาที และการโอนเงินใน xRapid ที่ใช้ไปเพียงแค่ 2 -3 วินาทีเท่านั้น”
สำหรับในระยะยาวที่รูปแบบ distributed ledger technologies (DLT) จะเข้ามาควบคุมการชำระเงินแบบข้ามพรมแดนหรือไม่ทางธนาคารโลกยังได้กล่าวไว้ว่ายังเป็นคำถามคงจะสรุปไม่ได้เร็ว ๆ นี้
“ไม่ว่า distributed ledger technologies (DLT) จะสร้างความท้ายทายให้กับการแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมการส่งเงินข้ามพรมแดน หรือเมื่อเทคโนโลยีนี้สามารถที่จะขึ้นมาถึงในระดับที่ทำงานได้จริง สุดท้ายไม่ว่าจะกรณีไหนสุก็ล้วนแล้วแต่มีโอกาสมากมายที่นวัตกรรมจะต้องเข้ามาสู่อุตสหกรรมการเงินข้ามพรมแดนอยู่ดี”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น