PewDiePie หนึ่งในสตรีมเมอร์และนักทำวีดีโอ YouTube ผู้โด่งดังเริ่มที่จะหันมาใช้แพลตฟอร์มซึ่งใช้เทคโนโลยี Blockchain อย่าง DLive แทนด้วยเหตุผลด้านค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นมากเกินไปรวมทั้งระบบมาตรการในการสร้างแรงจูงใจแก่ศิลปินที่ไม่เพียงพอ
สตรีมเมอร์ผู้โด่งดังทีสุดในโลกได้ละทิ้ง Youtube ไปเสียแล้ว
นาย Felix Kjellberg หรือที่มีชื่อเรียกในวงการว่า ‘PewDiePie’ ซึ่ง Channel ของเค้าบนเว็บไซต์ Youtube ได้มีผู้ติดตามกว่า 93 ล้านคน และมียอดการเข้าชมสูงถึงกว่า 2.1 แสนล้านครั้ง ซึ่งเท่ากับการที่ผู้คนบนโลกทุกคนได้เข้าถึงวิดีโอของเค้าอย่างน้อย 3 วิดีโอต่อคน เค้าจึงเป็นผู้สร้างสรรค์เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม Youtube ที่มีผู้ชมติดตามมากที่สุดเป็นอันดับสอง โดยคำนวนเป็นรายได้มากถึง 10 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง PewDiePie และ DLive
‘PewDiePie’ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ DLive ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอ โดยอาศัยเทคโนโลยี Blockchain บนเครือข่าย Lino test ซึ่งตัวเค้าจะทำการแพร่ภาพสดเป็นครั้งแรกบนแพลตฟอร์มในวันที่ 14 เดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดยได้ให้ความเห็นว่า
“โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากที่จะมีเว็บไซต์สำหรับผู้สร้างสรรค์เนื้อหาซึ่งได้ให้ความสำคัญกับผู้สร้างสรรค์เนื้อหาเป็นอันดับแรก ผมมีความตื่นเต้นมากๆที่จะได้ร่วมงานกับ DLive และได้สตรีมสดอีกครั้งในที่สุด”
นาย Felix Kjellberg ได้กล่าวเป็นนัยถึงเหตุเบื้องหลังที่เค้าได้ย้ายการสตรีมจาก Youtube ไปสู่ DLive โดยได้กล่าวถึงค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นว่า แพลตฟอร์มอย่าง Youtube หรือ Twitch นั้นจะเก็บส่วนหนึ่งของปริมาณการติดตามและเข้าชมเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจมากถึง 30% หรือ 50% ก็ได้ โดย DLive นั้นมีระบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือเงินที่ได้ทั้งหมดนั้นจะถูฏส่งให้กับผู้สร้างสรรคผลงานทั้งหมด
นอกจากนี้เค้ายังได้วางแผนจะบริจาคเงินกว่า $50,000 จากการสตรีมครั้งแรกของเค้าให้แก่เหล่าผู้สร้างสรรค์บนแพลตฟอร์มอีกด้วย
โมเดลระบบการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้สร้างฯด้วยสกุลเงินคริปโต
DLive นั้นเป็นโครงการที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายในการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้สร้างสรรค์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มการเผยแพร่สื่อในเรื่องข้อตกลงทางรายได้ของผู้สร้างฯ
นาย Charles Wayn ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ DLive ได้กล่าวว่า
“หลายๆคนได้เริ่มต้นที่จะสร้างสรรค์เนื้อหาและสื่อต่างๆบนแพลตฟอร์มอย่าง Youtube หรือ Twitch… พวกเรายังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาของแพลต์ฟอร์มดังกล่าวในเวลาหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงเริ่มกิจการจนกระทั่งเข้าสู่บริษัทที่มีรายรับหลักพันล้านดอลลาร์ แล้วสิ่งที่พวกเราได้กลับมาล่ะคืออะไร? มาตรการการด้านรายได้ที่เข้มงวดขึ้น หรือโปรโมชั่นที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งรายรับที่ลดลงจากค่าธรรมเนียมที่มากขึ้นงั้นหรือ? ”
บริษัท DLive ได้นำสกุลเงินคริปโตของตนเองมาใช้ คือเหรียญ LINO ในการชำระเงินและการดำนเนิการต่างๆบนแพลตฟอร์ม ซึ่งผู้ใช้สามารถนำเหรียญดังกล่าวไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินธรรมดาผ่านทาง Paypal หรือ Bitcoin ได้
หลักการแบ่งรายได้ของ DLive นั้น ได้ดำเนินการแบ่ง 91.1% ของการบริจาคและติดตามของผู้ชมให้แก่ผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดยส้วน 9.9% ที่เหลือนั้นจะเก็บเข้าส่วนกลางที่เตรียมไว้แจกจ่ายให้แก่พนักงานผู้มีหน้าที่จัดการดูแลแพลตฟอร์มดังกล่าว
นอกจากนี้ผู้บริหารของทางบริษัท DLive ยังได้ออกมากล่าวอีกว่า
“ทางแพลตฟอร์มไม่ทำการหักการบริจาคและการติดตามใดๆจากผู้ชมออกก่อนส่งให้ผู้สร้างสรรค์เลย โดยได้มีการออกแบบระบการแจกจ่ายรายรับใหม่โดยการให้รางวัลแก่กลุ่มสังคมบนแพลตฟอร์มสำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขามากกว่าการทำเพื่อธุรกิจ”
อีกทั้ง ‘PewDiePie’ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “อีกทั้งเหล่าผู้ชมก็มีส่วนที่จะได้รับางวัลจากการมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน”
กล่าวโดยสรุปแล้วแม้ว่าการประกาศดังกล่าวจะเหมือนว่าเป็นไปเพื่อการโปรโมตแพลตฟอร์มดังกล่าวเท่านั้น แต่มันก็อาจจะเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับแพลตฟอร์มการเผยแพร่สื่อซึ่งเป็นอิสระจากการควบคุมโดยส่วนกลาง (Decentralized) ที่จะมีส่วนในการแย่งผลกำไรจากบริษัทสื่ออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Youtube
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น