<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
By
เมษายน 13, 2019

ผู้ผลิต Hardware Wallet รายใหญ่ “Ledger” ปลดพนักงานกว่า 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากตลาดหมี?

เศรษฐกิจ
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในแวดวงการคริปโตเคอร์เรนซีเป็นที่รู้กันว่าตลาดหมีนั้นไม่มีความปราณีต่อธุรกิจ Blockchain หรือ Cryptocurrency ใด ๆ ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจอาจจะต้องทำการปลดพนักงานหรือบริษัทบางแห่งอาจจำเป็นที่จะต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดเงินทุนมาหมุน

บริษัทที่ตกเป็นเหยื่อของตลาดหมีล่าสุดก็คือบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์วอลเล็ทอย่าง Ledger นั่นเอง ที่ล่าสุดมีรายงานว่า Ledger ได้ทำการปลดพนักงานของตนไปแล้วกว่า 10%

บริษัท Ledger ต้องปลดพนักงานอันเนื่องมาจากสภาวะตลาดหมี

ตลาดหมีในช่วงปี 2018 ถึงปี 2019 นี้ค่อนข้างจะยาวนานและโหดร้ายซึ่งทำให้บริษัทคริปโตหลายแห่งต้องทำการปลดพนักงาน แม้กระทั่งบริษัทใหญ่อย่าง Bitmain หรือบริษัทสตาร์ทอัพ ConsenSys ก็มีรายงานออกมาว่าจำเป็นต้องปลดพนักงานออกเพื่อรักษาทุนของบริษัทด้วยเช่นกัน และล่าสุดบริษัทที่ต้องออกมาตรการปลดพนักงานก็คือบริษัท Ledger

จากรายงานข่าวท้องถิ่นของฝรั่งเศส  Presse Citro ได้เผยว่าบริษัท Ledger Nano S USB-device ได้ทำการปลดพนักงานออก 10% จากพนักงานทั้งหมด 200 คน

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2017 ที่ตลาดคริปโตนั้นอยู่ในช่วงตลาดกระทิง ผลิตภัณฑ์ของ Ledger มียอดขายกว่า 1 ล้านหน่วย ในขณะที่ตอนนี้ทางประธานบริษัทของ Ledger ได้ออกมาเผยแค่ว่ายอดขายฮาร์ดแวร์ของบริษัทนั้นอยู่ในช่วง “กำลังดี” เท่านั้น เห็นได้ชัดเจนว่าทางบริษัทกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินอยู่เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานของตนออก

สาเหตุมาจากตลาดหมีหรือการทำธุรกิจของบริษัทกันแน่?

การที่ Ledger ต้องประสบปัญหาด้านการเงินอาจไม่ได้เป็นเพราะตลาดหมีอย่างเดียวเท่านั้น เพราะล่าสุดการเคลื่อนไหวทางธุรกิจของ Ledger ก็ทำให้ลูกค้าหลายท่านผิดหวัง

เมื่อปีที่แล้วทาง Ledger ได้เปิดตัวอัปเดท Nano S hardware wallet ออกมาใหม่ซึ่งมันทำให้แอปพลิเคชั่นที่สามารถติดตั้งได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ 2 ถึง 3 แอป ฯ ผู้ใช้งาน Reddit ได้ออกมาบ่นเกี่ยวกับการอัปเดทครั้งนี้ว่ามันล้าสมัย เป็นการบังคับให้ผู้ใช้งานต้องอัปเกรด Nano X ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ด้อยกว่าเดิม

นอกจากนี้นักลงทุนบางรายและลูกค้าที่ทำการ pre-order สินค้า Nano X ที่เป็นฮาร์ดแวร์วอลเล็ทที่ใช้งานด้วยบลูทูชได้ก็ออกมาบ่นประเด็นที่ทาง Ledger ได้กล่าวไว้ทีแรกว่าจะเริ่มส่งสินค้าในช่วงเดือนมีนาคม แต่กลับเลื่อนการขนส่งออกมาเนื่องจากประสบปัญหาคุณภาพของสินค้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งสินค้าใหม่ในช่วงเดือนเมษายนนี้

ก่อนหน้านี้ทาง Ledger ได้ออกมาโจมตีบริษัทคู่แข่ง Trezor ว่าพบจุดอ่อนด้านความปลอดภัยในอุปกรณ์วอลเล็ทของ Trezor ในที่ประชุม MIT Bitcoin Expo ซึ่งก็สร้างแรงกดดันให้กับ Ledger พอสมควรที่จะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้ดีกว่า

ที่มา newsbtc.com

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น

ซ่อนความเห็น