ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัท Decurret Inc. พึ่งได้รับใบอนุญาติจากทาง หน่วยงานให้บริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) เพื่อให้สามารถเปิดบริการเทรด Cryptocurrency ได้อย่างถูกกดหมาย โดยเบื้องต้นนั้นได้มีการยืนยันแล้วว่าจะมีการลิสต์ Bitcoin (BTC), Ripple ( XRP), Bitcoin Cash (BCH), and Litecoin (LTC) ส่วนในอนาคตมีการคาดการณ์ว่าจะเปิดให้เทรด Ethereum (ETH) ได้ในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
“ในฐานะผู้ที่ได้รับใบอนุญาติมาเรียบร้อยแล้ว พวกเรา บริษัท Decurret Inc. จะทำการเปิดให้บริการในการเทรดแบบสปอท (spot trading) ในวันที่ 16 เมษายน 2019 เป็นต้นไป สำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนนั้นทางเราได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2019 มาสักระยะนึงแล้ว”
Decurret Inc, a Japanese exchange with over $5 billion capital has announced it will start trading #XRP, & 3 other digital assets on Tuesday, 16th April 2019!
Thanks @xrpthestandard7 for sharing!#XRPCommunityhttps://t.co/EsTHnJNg9t pic.twitter.com/H6ruqJxpsC
— ?PandaRippleXRP? (@RipplePandaXRP) April 12, 2019
บริษัท Decurret เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2018 ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Internet Initiative Japan (IIJ) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายแรกของภูมิภาค IIJ โดยได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสอย่างนาย Kazuhiro Tokita ขึ้นเป็นตัวแทนผู้อำนวยการและประธาน Decurret Inc. ซึ่งได้ออกมายืนยันว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 บริษัทที่จะทำงานร่วมกันอีกด้วย
การที่บริษัท Internet Initiative Japan (IIJ) ให้การสนับสนุน Decurret Inc. ทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนจากทั้งบริษัท สถาบันการเงินและเทคโนโลยีชั้นนำบางแห่งมาเพื่อลงทุนได้บ้างอย่างเช่น บริษัท Mitsubishi UFJ Bank Ltd, บริษัท East Japan Railway Company, บริษัท Sumitomo Mitsui Banking Corporation, บริษัท Mitsui Fudosan Co., Ltd, Yamato Holdings Co., และอื่น ๆ อีกบ้างโดยทางบริษัท Decurret ยืนยันว่ามูลค่ารวม ณ วันที่ 27 มีนาคม 2019 อยู่ที่ 5.23 พันล้านเยนซึ่งประมาณเท่ากับ 46.68 ล้านดอลลาร์
Japan to punish hacked cryptocurrency exchange Coincheck on Monday https://t.co/e1HxOfeqFD pic.twitter.com/k7dMxmJzii
— Reuters Top News (@Reuters) January 29, 2018
ทางด้านของความปลอดภัยนั้นในญี่ปุ่นอย่างที่พวกเรารู้กันดีว่าเคยมีประวัติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักอย่างเรื่องราวของ Mt. Gox ซึ่งถูกโจรกรรมและสูญเสียเงินไปเป็นมูลค่ากว่า 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทาง สำนักข่าว The Asahi Shimbun ของญี่ปุ่นได้มีการรานงานไว้ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2018 พวกเขาเห็นการโจรกรรมที่สร้างความสูญเสียเป็นมูลค่ามากกว่า 540 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว โดยมีการรายงานไว้ว่า
“มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้นกับบุคคลที่มักใช้ ID และ รหัสผ่านเดียวกันกับบัญชี Email หรือ บริการอินเตอร์เน็ตอื่น ๆ ของตัวเองเช่นการซื้อของผ่านออนไลน์สำหรับการซื้อขาย Cryptocurrency “
จากเหตุการ Mt.Gox และการถูกโจรกรรมข้างต้นทำให้หน่วยงานให้บริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) ออกคำเตือนไปยังผู้ให้บริการเว็ทเทรด Bitcoin และ Cryptocurrency ในญี่ปุ่นเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของพวกเขาที่อาจจะหละหลวมเกินไปและควบคุมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหากใครไม่ทำตามก็อาจจะโดนเพิกถอนใบอนุญาติประกอบการได้หากพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบระบบความปลอดภัยของรัฐ
ทางด้านของ บริษัท Decurret ได้มีการออกมาเคลมว่าพวกเขาใช้เวลาอยู่นานเป็นอย่างมากเพื่อที่จะสามารถทำตามกฏระเบียบต่าง ๆ ของทาง FSA เพื่อให้เว็บเทรดของพวกเขาได้มาตราฐานมากที่สุด และได้รับใบอนุญาติมาครอบครองได้สำเร็จ
ทางด้าน FSA ได้มีการออกมาบอกว่ามีผู้ที่สนใจจะขอรับใบอนุญาติเป็นจำนวนมากถึง 23 บริษัทด้วยกันแต่มีเพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านมานั้นก็คือ บริษัท Rakuten ซึ่งตั้งอยู่ในโตเกี่ยว ก็ได้รับเช่นเดียวกันกับ Decurret ในการให้บริการการเทรดคริปโตแบบสป็อต โดยมาตราการที่เข้มงวดนี้ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นและเทรดกันได้อย่างปลอดภัยทั้งยังช่วยดึงดูดนักลงทุนชาวญี่ปุ่นรายใหม่เข้ามาในตลอดอีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น