<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์จากธนาคารระดับโลก JP Morgan ชี้ขาขึ้น Bitcoin ครั้งนี้เหมือนกับช่วงปลายปี 2017

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ Bitcoin (BTC) นั้นมีการทะยานของราคาอย่างรุนแรงจนทำให้มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 4,200 เป็น 8,350 ดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 100 เปอร์เซ็นต์ในไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น และดูเหมือนมันจะไม่หยุดง่าย ๆ แค่นี้

ในขณะที่หลาย ๆ คนเชื่อว่าตลาดกระทิงในรอบนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่พัฒนามากขึ้น สถาบันการเงินแห่งหนึ่งใน Wall Street กลับไม่ได้คิดแบบนั้น

Bitcoin มีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง

อ้างอิงจากวิจัยล่าสุดของ JP Morgan สถาบันการเงินยักษ์ระดับโลก ได้มีการอธิบายว่า Bitcoin นั้นกำลังถูกซื้อขายเหนือ ‘มูลค่าที่แท้จริง’ ในเอกสารได้ระบุว่า มูลค่าที่แท้จริงของ Bitcoin นั้นคือต้นทุนในการผลิต 1 Bitcoin โดยเฉลี่ย และในปัจจุบัน Bitcoin ก็ถูกซื้อขายกันในราคาที่มากกว่าต้นทุนถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

นาย Holger Zschaepitz นักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนหนังสือชาวเยอรมันได้ทำการอ้างอิงว่า JP Morgan ได้ระบุว่า การทะยานในครั้งนี้นั้นมี ‘ลักษณะคล้ายกับช่วงขาขึ้นเมื่อปี 2017’ ที่ราคาของ Bitcoin พุ่งไปแตะ All-time high จากการเก็งกำไรและกระแส Hype ของนักลงทุน ทำให้ราคาของมันไม่ค่อยอ้างอิงกับปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ เท่าไรนัก

อย่างไรก็ตาม นาย Tom Lee นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก Fundstrat ก็ได้ชี้เช่นกันว่า Bitcoin นั้นมักจะถูกซื้อขายในราคาที่มากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน 2 เท่าอยู่แล้ว โดยเฉพาะในตลาดกระทิง

ในอดีต สถาบันการเงิน JP Morgan นั้นไม่ค่อยเห็นด้วยกับ Bitcoin เท่าไรนัก ก่อนหน้านี้ นาย Jamie Dimon นั้นก็มีชื่อเสียงมาจากการที่กล่าวโจมตี Bitcoin หลายครั้งว่าเป็นการต้มตุ๋นหลอกลวง และสถาบันการเงินอื่น ๆ เช่น American Bank ก็เคยออกมาชี้เช่นกันว่า Bitcoin นั้นจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อในภาวะ ‘Dystopian หรือช่วงที่เกิดภาวะวิกฤติ’ เท่านั้น ไม่ได้เป็นทองคำดิจิทัลอย่างที่หลาย ๆ คนเล็งไว้ และเผยว่า Bitcoin สามารถมีราคาร่วงได้ถึง 1,260 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไป

ถ้าให้เทียบกันระหว่างปี 2017 และปัจจุบัน ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานแล้ว Bitcoin นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะในแง่ของเทคโนโลยีที่มีการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง, ในแง่ของการใช้งานที่มีบริษัทจำนวนมากเช่น Square พยายามนำ Bitcoin ให้กลายเป็นที่ยอมรับโดยพ่อค้าแม่ค้า และในแง่ของการลงทุนที่ Fidelity Investmnets, Bakkt และ Eris X ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการการเงินทั้งนั้นต่างก็เข้ามาในตลาดคริปโต โดยการเปิดให้บริการเทรดคริปโตสำหรับสถาบันการเงินด้วยแล้ว ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานนั้น จะมีอะไรแตกต่างออกไปแน่นอน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น