มูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไร ที่เป็นผู้ให้กำเนิดเหรียญ Ether (ETH) นามว่า Ethereum Foundation ได้เผยแพร่แผนการอัพเดตที่เหลือของช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2019 นี้ โดยเผยให้เห็นถึงโรดแม็พแผนการพัฒนาแพลทฟอร์มในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า
จุดที่น่าสนใจคือรายงานได้โฟกัสไปที่รายละเอียดเกี่ยวกับการที่ทางมูลนิธินั้นจะนำเงินจำนวน 30 ล้านดอลลาร์ที่ทางมูลนิธิเก็บแยกไว้ ไปใช้เพื่อการพัฒนาเหรียญ ETH อย่างไร โดยพวกเผยว่าในขณะนี้ทางมูลนิธิได้มีการรุดหน้าไปมากแล้วในการพัฒนาแพลทฟอร์มดังกล่าวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
โดยพวกเขาวางแผนที่จะนำเอาเงินก้อนดังกล่าวไปแยกให้เป็นสามส่วน ซึ่งส่วนแรก 19 ล้านดอลลาร์จะนำไปใช้พัฒนาโครงการในอนาคต, 8 ล้านดอลลาร์เอาไว้ใช้พัฒนาโครงการในปัจจุบัน ส่วนอีก 3 ล้านดอลลาร์ที่เหลือจะนำไปใช้สนับสนุนนักพัฒนา โดยเฉพาะโครงการแพลทฟอร์ม Ethereum 2.0 นั้นจะประกอบไปด้วยทีมลูกค้าสัมพันธ์, วิจัย, เอกสารและการสื่อสาร และรวมถึงการพัฒนาโครงการ Plasma อีกด้วย
ก่อนหน้านี้โปรเจ็ค Plasma นั้นถูกเสนอโดยนาย Vitalik และ Joseph Poon ตั้งแต่ช่วงปี 2017 แล้ว โดยมันเป็นโซลูชันที่เอาไว้ใช้แก้ปัญหาการ scaling หรือการทำธุรกรรมผ่าน blockchain ของ Ethereum ที่ล่าช้าในบางครั้ง โดยจะเป็นการนำเอา smart contract เข้ามาช่วยแก้ไข โดย whitepaper ของ Plasma เผยว่ามันขะช่วย “แสดงแอปพลิเคชันการเงินที่กระจายอยู่ทั่วโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ”
ก่อนหน้านี้ทาง Ethereum Foundation เคยออกมาประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนในงาน ConsenSys’ Ethereal Summit เกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณจำนวน 30 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยผู้อำนวยการของมูลนิธินาง Aya Miyaguchi กล่าวว่าทางมูลนิธินั้นต้องการที่จะดึงเอาความสนใจของสถานศึกษาต่าง ๆ มาไว้ที่ Ethereum ซึ่งมันจะช่วยดึงดูดนักวิจัยระดับต้น ๆ ของโลกเข้ามาช่วยกันพัฒนาแพลทฟอร์มของ Ethereum มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่านาย Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมากล่าวว่า “แพลทฟอร์มของเขาเท่านั้นที่จะเป็นระบบโอนเงินระดับโลกได้”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น