อ้างอิงจาก BloombergQuint รายงานเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ออกกฎหมายชาวอินเดียรายหนึ่งได้ยื่นเสนอให้มีกฎหมายที่จะทำการจับผู้ที่ครอบครอง Cryptocurrency และตัดสินให้ติดคุกเป็นเวลา 10 ปี
การต่อต้านคริปโตอย่างรุนแรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งในร่างกฎหมายของอินเดียที่มีชื่อว่า “การแบน Crypyocurrency และกฎหมายของสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการในปี 2019”
ร่างกฎหมายนี้ได้ครอบคลุมไปถึงผู้ที่ทำการขุด, ถือ, ขาย และซื้อ Cryptocurrency ทุกประเภท รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ในประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม
มีโทษร้ายแรง
ถ้ากฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติ มันจะบังคับให้ผู้ที่ถือ Cryptocurrency ต้องทำการยื่นข้อมูลว่า พวกเขาถือสินทรัพย์คริปโตอยู่เท่าไร และขายสินทรัพย์เหล่านั้น ในร่างกฎหมายยังมีการระบุด้วยว่า จะมีโทษปรับเป็น 3 เท่าของมูลค่าสนิทรัพย์ ถ้าเกิด “ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบ” หรือจากกำไรของผู้ที่ถือ
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังร้ายแรงขนาดที่ ถ้าเกิดมีใครฝ่าฝืนกฎหมายก็มีโทษจำคุกได้สูงสุดถึง 10 ปี รวมทั้งไม่สามารถประกันตัวได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในร่างกฎหมายนั้นได้มีการยื่นด้วยว่า ให้มีการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของประเทศนาม Digital Rupee จากที่ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางของอินเดียได้เลื่อนการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาไปในต้นปี 2019
การหารือครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแบน Cryptocurrencies ในประเทศอินเดียเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2019 เมื่อสำนักข่าวท้องถิ่นรายงานเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ที่ตั้งใจจะแบน Cryptocurrencies ในประเทศอย่างสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน RBI ได้ปฏิเสธการมีส่วนร่วมหรือรับรู้เกี่ยวกับร่างกฎหมายของรัฐบาล โดยอ้างว่าธนาคารไม่มีการพูดคุยบรัฐบาลกลางเกี่ยวกับกฎหมายใหม่และไม่ได้รับสำเนาของร่างกฎหมายแต่อย่างใด
ประเทศอินเดียนับว่าเป็นอีกประเทศที่มีความล้ำหน้าในวงการเทคโนโลยีและ IT แต่การที่ทางรัฐบาลเริ่มมีท่าทีว่าจะต่อต้าน Cryptocurrency ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่นั้นอาจทำให้คนส่วนใหญ่หลายคนเกิดความสงสัยว่า การที่พวกเขาตั้งใจแบนคริปโตอย่างจริงจังนั้น อาจจะเกิดมาจากการที่พวกเขาต้องการที่จะให้ผู้คนใช้แต่คริปโตที่พวกเขากำลังจะสร้างก็เป็นได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น