จากบทสัมภาษณ์กับ Bloomberg ของนาย Brad Garlinghouse ผู้บริหารของบริษัท Ripple ได้กล่าวว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาก้าวล้ำหน้าแพลตฟอร์มการโอนเงินระหว่างประเทศ อย่าง SWIFT ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งหากบริษัททั้งสองสามารถที่จะร่วมมือกันได้ จะยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้นไปอีกสำหรับการร่วมกันสร้างโลกใบใหม่ที่ยึดผู้คนเป็นศูนย์กลางมากกว่าการถูกควบคุมกดขี่จากภาครัฐ (New World Order)
Ripple is part of the New World Order
Ripple is taking over SWIFT#xrp #xrpcommunity #xrpthestandard #xrparmy pic.twitter.com/J7Kccgpm2s
— CryptøManiac101 (NOT GIVING AWAY CRYPTO) (@_Crypto_Maniac_) June 13, 2019
Ripple มาพร้อมกับอำนาจในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้น
นาย Brad Garlinghouse ยังได้ออกมากล่าวถึงการดำเนินการในปัจจุบันว่าเทคโนโลยีของ Ripple นั้นถูกนำไปใช้โดยกว่าธนาคารกว่า 100 แห่งทั่วโลกซึ่งในขณะเดียวกันธนาคารเหล่านี้ก็ได้ใช้งานแพลตฟอร์มของ SWIFT อยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งยิ่งเป็นการที่ทำให้เหล่าภาคธุรกิจนั้นสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของทั้งสองแพลตฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้เค้ายังได้กล่าวถึงบริษัทด้านการดำเนินธุรกรรมข้ามประเทศแห่งหนึ่งซึ่งเค้าไม่ได้เปิดเผยชื่อว่าบริษัทนั้นได้ดำเนินการใช้เทคโนโลยีของ Ripple ในการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย ซึ่งทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนต่อหนึ่งธุรกรรมจาก 20 ดอลลาร์เหลือเพียง 2 ดอลลาร์เท่านั้น ส่งผลให้ลูกค้าของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่าตัวในชั่วข้ามคืน
‘มันไม่มีปัญหาอะไร หาก Ripple จำเป็นต้องทำงานร่วมกับ SWIFT’
ผู้บริหารดังกล่าวได้เปิดเผยถึงความคาดหวังว่าเหล่าธนาคารจะสามารถยืนหยัดในตลาดได้โดยมีเทคโนโลยีของ Ripple เป็นแรงผลักดันที่สำคัญ โดยเขาเชื่อว่า Ripple นั้นจะสามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่แพลตฟอร์มอย่าง SWIFT นั้นไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งเป็นกรณีการโอนเงินข้ามประเทศที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง แต่ทั้งนี้เค้าก็กล่าวว่าทางบริษัทไม่ขัดข้องแต่อย่างใดหากจะต้องทำงานร่วมกับ SWIFT
ในขณะนี้ราคาของเหรียญ XRP นั้นได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในช่วงราคาสูงสุดเดิมแล้วที่ 0.40 ดอลลาร์ หลังจากที่ลดลงไปตามตลาดของ Bitcoin โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น XRP ได้มีมูลค่าที่ลดลงเล็กน้อย
ที่มา : u.today
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น