<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Bitcoin นั้นถือเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติ” กล่าวโดยเลขาฯกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ได้ออกมาทวีตวิจารณ์ Bitcoin นั้น ล่าสุดนาย Steven Mnuchin หรือเลขาธิการของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาจัดประชุมเกี่ยวกับการออกกฎหมายควบคุม Bitcoin และเหรียญ Libra ของ Facebook เนื่องจากว่ามันถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายและถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินของชาติ

โดยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ นั้นได้จัดประชุมเพื่อหารือและพูดคุยเกี่ยวกับท่าทีของพวกเขาต่อ cryptocurrency โดยเนื้อหาหลัก ๆ ของการประชุมนั้นคือการที่เหรียญ cryptocurrency ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และกฎหมายในปัจจุบันนั้นก็ไม่สามารถไล่ตามเทคโนโลยีที่มีความเป็น decentralization และความไร้ตัวตนของผู้ใช้งานได้ และเทคโนโลยีเหล่านี้อาจส่งผลทำให้ระบบการเงินของสหรัฐฯนั้นต้องตกอยู่ในสภาพลำบาก นาย Mnuchin เผย

ปัญหาของ Bitcoin

นาย Mnuchin เน้นย้ำว่า Bitcoin และเหรียญ​ cryptocurrency อื่น ๆ นั้นมักจะถูกนำไปใช้โดยอาชญากรที่ต้องการจะหลีกเลี่ยงการควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ

“ผมจะโฟกัสไปที่ปัญหาที่ร้ายแรงที่ทางคลังกำลังพบเจอก็คือ การนำเอา cryptocurrency ไปใช้ในทางที่ผิดของพวกนักฟอกเงิน, ผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้าย, และพวกผู้รายอื่น ๆ”

“Cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin นั้นได้ถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์นับพันล้านดอลลาร์อย่างเช่นการหนีภาษี, การชู่กรรโชก, ransomware, ยาเสพย์ติดผิดกฎหมาย, และการค้ามนุษย์ มีพวกผู้ร้ายหลายรายที่ใช้ cryptocurrency เพื่อรองรับพฤติกรรมร้ายกาจเหล่านี้ และนี่ก็ถือเป็นปัญหาระดับชาติ”

นอกจากนี้คลังสหรัฐฯ ยังเชื่อว่าเว็บยาเสพย์ติดใต้ดินขนาดใหญ่อย่าง Silk Road นั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตของ Bitcoin

“ถ้าพวกคุณคิดจะใช้ Bitcoin เพื่อท่อง dark web คุณจะต้องถูกจับแน่” เสริมโดยนาย Mnuchin

มันไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจแต่อย่างใดที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯจะหยิบยกแต่ด้านแย่ ๆ ของ Bitcoin และ cryptocurrency อย่างเช่นการนำมันมาใช้โดยกลุ่มอาชญากร

ซึ่งท่าทางของคลังสหรัฐฯนั้นค่อนข้างจะชัดเจน ไม่ว่ามันจะเป็น Bitcoin หรือ Libra ของ Facebook ก็แล้วแต่ เหรียญที่ใช้เทคโนโลยี distributed ledger นั้นจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน และจะต้องอยู่ภายใต้ Banking Secrecy Act และ FinCEN เหมือน ๆ กับที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ทำอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางคลังสหรัฐฯ นั้นจะคาดหวังให้ Bitcoin และตัวตนที่มีความเป็น decentralized อื่น ๆ นั้นอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายเหล่านั้นได้อย่างไร

ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปในระยะยาว ๆ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น