เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ethereum ได้ฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 4 เมื่อ 4 ปีก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2015 แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไปรายแรกของโลกได้มีการเปิดตัว Ethereum โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มตัวแรกที่มีฟีเจอร์ Turing-complete virtual machine และภาษาโปรแกรมแบบดั้งเดิมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโค้ดอัลกอริทึมที่ยุ่งยากซับซ้อน
“ก่อนจะมี Ethereum ขึ้นมา นักพัฒนาจะต้องออกแบบและเขียนซอฟต์แวร์ที่ยุ่งยากมาก ๆ” นักวิจัย Blockchain นาย Mihailo Bjelic ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“Ethereum ได้เปิดตัวเลเยอร์ generic programmable ซึ่งแยกออกจากกระบวนการทั้งหมดและทำให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Decentralized Application (Dapp) ด้วยการเขียนโค้ดของแอปพลิเคชั่นแค่นั้น”
ปัจจุบันมีนักพัฒนา Blockchain ของ Ethereum ประมาณ 800 คน ตามรายงานใหม่ของบริษัทการลงทุน Electric Capital
“นี่หมายความว่าระบบนิเวศของ Ethereum ที่กำลังทดสอบระบบที่มีขนาดใหญ่มากกว่าระบบนิเวศอื่น ๆ เกือบทุกระบบ” ผู้ก่อตั้ง Avichal Garg กล่าว
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า Ethereum ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้งานทั่วไปในโลกของ Blockchain เพียงอย่างเดียว หรือแม้กระทั่งเมตริกที่มีการใช้งานมากที่สุด ตามรายงานไตรมาสล่าสุดจาก Dapp.com แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ Ethereum ยังคงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน (dapp) แต่อย่างไรก็ตาม Blockchain อื่น ๆ เช่น Tron และ EOS นั้นยังมีจำนวนผู้ใช้งาน Dapp มากกว่า Ethereum
สิ่งนี้ทำให้ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรม Blockchain หลายคนต่างพากันสงสัยว่า Ethereum จะอยู่รอดในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือไม่ มันจะยังคงเป็นผู้นำแพลตฟอร์ม Blockchain หรือไม่? เมื่อเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นาย Eric Conner ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ข้อมูล ETH Hub และเป็นนักวิจัยบริษัทสตาร์ทอัพด้าน Blockchain ของ Gnosis กล่าวว่า
“ผมคิดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า Ethereum จะก้าวผ่านสิ่งที่ยากที่สุดคือในเรื่อง proof-of-stake และ scaling ณ จุดนั้นเครือข่ายจะสามารถรองรับผู้ใช้งานได้มากขึ้นและเราจะเริ่มเติบโตเกินกว่ากรณีการใช้งานที่เราเห็นในวันนี้”
ทั้ง proof-of-stake (อัลกอริธึมที่เห็นพ้องต้องกันทั้งหมดในเวอร์ชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นของ Ethereum) และ scaling ถูกรวมเข้ากับการอัพเกรดที่เรียกว่า Ethereum 2.0 ซึ่งมันจะเกิดขึ้นภายใน 4 ปีข้างหน้า
นาย Anthony Sassano หัวหน้าฝ่ายการตลาดและบริษัทสตาร์ทอัพ Set Protocol กล่าวว่า
“ผมเชื่อว่า Ethereum จะบรรลุเป้าหมายในการเป็น ‘โลกแห่งคอมพิวเตอร์’ ภายในอีก 4 ปีข้างหน้าเพราะ Ethereum 2.0 จะเปิดตัวอย่างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเราจะมีโซลูชัน scaling ที่ดีที่สุด (ทุกเลเยอร์) และเราจะมีโซลูชันความเป็นส่วนตัวที่ดีมากขึ้น”
อนาคต Ethereum จะเข้ามาแทนที่เงินสด
นอกจากการพัฒนากการรองรับปริมาณธุรกรรม (Throughput) และประสิทธิภาพที่เป็นสิ่งที่ Ethereum ต้องทำแล้ว ผู้คนที่อยู่นอกและในสังคม Ethereum เชื่อว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า Ethereum จะเผชิญกับข้อท้าทายที่สำคัญซึ่งก็คือการมีตัวตนทางการเงิน
นาย Yaz Khoury ผู้อำนวยการฝ่ายนักพัฒนา Ethereum Classic Cooperative (ซึ่งช่วยสร้างโปรโตคอลสำหรับเครือข่าย Ethereum ETC) กล่าวว่า:
“Ethereum ยังคงต้องเผชิญต่อความท้าทายในเรื่องของสถานะทางการเงิน เพราะ Ethereum เป็นที่รับรู้ในฐานะเจ้าพ่อของ Dapp มากกว่าการเป็นคริปโตเคอร์เรนซี”
นาย Ryan Sean Adams ผู้ก่อตั้งบริษัทการลงทุนคริปโตที่ชื่อว่า Mythos Capital ได้แสดงความคิดเห็นว่า Ethereum จะตั้งตัวเองเป็นสกุลเงินดิจิทัลในอีก 4 ปีข้างหน้า
“4 ปีต่อจากนี้จะเห็นได้ชัดว่า ETH ไม่ใช่เหรียญอรรถประโยชน์ แต่เป็นเงินจำนวนมหาศาลที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ” เขากล่าวว่า “ การให้กู้ยืม , หยิบยืม , การซื้อขาย , การออมเงิน ทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับโปรโตคอลสาธารณะในเศรษฐกิจของ Ethereum”
ดังนั้น MakerDAO’s Conti จึงคิดว่า Ethereum 2.0 และความท้าทายในเรื่องของ scaling นั้นไม่ได้มีความสำคัญต่ออนาคตของโปรโตคอล
นาย Mariano Conti หัวหน้า MakerDAO ผู้ร่วมก่อตั้ง smart contract ชั้นแนวหน้ากล่าวผ่านอีเมล์ว่า :
“ผมเชื่อสุดใจ แม้ว่า Ethereum 2.0 จะล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่เรามีอยู่ในตอนนี้ก็ดีพออยู่แล้วสำหรับการกระจายอำนาจทางการเงินที่เหมาะสม ส่วนในอีก 3 หรือ 4 ปีข้างหน้าผมคาดว่าบริษัทคงจะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานเป็นสกุลเงิน DAI …ผมยังคาดหวังว่าอาจมีการแฮ็ค DeFi ครั้งแรกเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้และนี่จะเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง”
เสียงจากนักลงทุน Ethereum
ในทางกลับกันนักลงทุนรายใหญ่ใน Ethereum กล่าวว่าพวกเขาไม่กังวลว่าแพลตฟอร์มจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในทางตรงกันข้ามความก้าวหน้าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาสำหรับการมีอยู่ของ Ethereum นั้นพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งนี้มันคือผู้นำด้านเทคโนโลยีหนึ่งเดียวเท่านั้น
“Ethereum มีความก้าวหน้าอย่างมากในการทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น” Linda Xie ผู้ก่อตั้ง Scalar Capital กล่าว “ ภาษา , เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐานได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แม้มันจะยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ตอนนี้มันง่ายกว่าการสร้างแอปพลิเคชั่นในช่วงแรก ๆ เยอะมาก ๆ ”
นาย Adam จาก Mythos Capital’s กล่าวว่าสินทรัพย์โทเค็นมูลค่าเกือบ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Blockchain ของ Ethereum สินทรัพย์เหล่านี้จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Ethereum ในปีต่อ ๆ ไป เขากล่าว
“เรายังเห็นโปรโตคอลกระจายอำนาจทางการเงินเวอร์ชั่นแรกบน Blockchain ของ Ethereum ด้วยเงิน 500 ล้านดอลลาร์ที่ถูกล็อคในแพลตฟอร์มการกู้ยืมและการแลกเปลี่ยนโปรโตคอลในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา” เขากล่าวผ่านอีเมลว่า “โปรโตคอลเหล่านี้จะก่อให้เกิดเลเยอร์ทางธนาคารของระบบการเงินรูปแบบใหม่”
ลำพังปี 2019 เพียงปีเดียวก็เป็นปีที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชน Ethereum มากมายโดยนาย Paul Veradittakit หุ้นส่วนบริษัท Pantera Capital (บริษัทลงทุน Bitcoin ที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐซึ่งได้ลงทุนในกว่า 20 ธุรกิจสตาร์ทอัพของ Ethereum) กล่าวว่า
“ชุมชน Ethereum ยังคงมุ่งเฝ้ารอตลาดขาขึ้นของ Ethereum และยังมีความเชื่อมั่นในเหรียญมากแม้จะอยู่ในช่วงตลาดหมี ”
นาย Veradittakit กล่าวเพิ่มเติมว่า :
“การมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานั้นเป็นผลตอบแทนที่แท้จริงและระบบนิเวศมันจะดีขึ้นมากกว่าเดิม เพราะว่ามันเป็นโปรเจค Ethereum ที่ยอดเยี่ยมและมีกำหนดจะเปิดตัวภายในปีนี้ ซึ่งทุกคนก็เฝ้ารอคอยการพัฒนาของ Ethereum นี้มานาน”
ที่มา CoinDesk
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น