<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Ripple กล่าว กำลังอยู่ในช่วงเจรจาดีลกับหลายบริษัท เผยผลงานกำลังดีเด่น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในบรรดาคริปโตที่มีมูลค่าโดยรวมมากที่สุดในตลาด เหรียญ XRP นั้นมีมูลค่าอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งถือเป็นเหรียญหนึ่งที่นักลงทุนระดับโลกและชาวไทยรู้จักเป็นอย่างดี เพราะในช่วงขาขึ้นปี 2017 นั้นทำการทะยานโชว์หลายร้อยเท่าจนทำให้ผู้คนตะลึงตาม ๆ กัน

เบื้องหลังเหรียญ XRP นั้นก็มี Ripple สตาร์ทอัพด้าน Blockchain เป็นผู้สร้าง และมีนาย Brad Garlinghouse เป็น CEO ของบริษัท ซึ่งเขาก็มักจะไปพูดตามงานต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง และถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หลาย ๆ คนจับตามองอยู่

ยังมี Deal รอ Ripple อยู่อีกมาก

ล่าสุด นาย Garlinghouse ได้กล่าวว่า บริษัทของเขานั้นมีงบดุลที่ ‘แข็งแกร่ง’ และพร้อมที่จะทำการลงทุนอื่น ๆ ในอนาคตภายในวงการ Blockchain

ในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Finance นาย Garlinghouse ได้เผยว่า ในตอนนี้ Ripple กำลังคุยเจรจาอยู่หลาย Deal ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะเพิ่งลงทุนใน MoneyGram หนึ่งในบริษัทด้านการโอนเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 913 ล้านบาท)

ในวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา MoneyGram ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้ทำการเซ็นสัญญาในการทำธรุกรรมข้ามประเทศกับ Ripple ซึ่งการจับมือกันนี้จะทำให้ MoneyGram สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของ Ripple อย่าง xRapid ได้ในการประมวลผลธุรกรรมข้ามประเทศ

ในการประกาศนั้นได้มีการลงรายละเอียดได้คร่าว ๆ ดังนี้:

  • การร่วมมือกันครั้งนี้จะมีระยะเวลาประมาณ 2 ปี
  • Ripple จะกลายเป็น Partner ที่สำคัญของ MoneyGram ในการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
  • Ripple ได้ทำการลงทุนเบื้องต้นในบริษัท MoneyGram ไป 30 ล้านดอลลาร์
  • Ripple ได้ทำการซื้อหุ้นสามัญที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาจาก MoneyGram เป็นมูลค่าหุ้นละ 4.10 ดอลลาร์ (ประมาณ 124 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดของหุ้น MoneyGram ในเวลานั้น
  • MoneyGram มีข้อเสนอให้ Ripple ลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านดอลลาร์ (โดยการจ่ายเงินซื้อหุ้นละ 4.10 ดอลลาร์เหมือนเดิม)

MoneyGram ได้ระบุไว้ในประกาศว่า การจับมือกันครั้งนี้นั้นเกิดจากการที่พวกเขาอยากที่จะอัปเกรดเทคโนโลยีการทำธุรกรรมข้ามประเทศ:

“ในปัจจุบัน MoneyGram ดำเนินธุรกิจด้วยการทำธุรกรรมบนตลาดแลกเปลี่ยนทั่วไป ซึ่งทำให้จำเป็นต้องจ่ายเงินสกุลเงินเหล่านั้นมาล่วงหน้า แต่ด้วยการร่วมมือกันครั้งนี้ MoneyGram จะสามารถทำธุรกรรมของค่าเงินนั้น ๆ ได้เลย ทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินการ, เงินทุนที่จะต้องใช้, มีรายได้มากขึ้น และมี Cash Flow (กระแสเงินสด) ที่มากขึ้นนั่นเอง”

ในการประกาศนั้น นาย Garlinghouse ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า:

“นี่จะช่วยกำจัดความต้องการของการที่ต้องมีบัญชีธนาคารต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม MoneyGram มีเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ที่ติดลบ มันจะช่วยทั้งลูกค้าและการดำเนินธุรกิจของพวกเขา”

Ripple เป็นนักลงทุนเจ้าใหญ่ที่สุดในวงการคริปโตและ Blockchain

และใน 8 สัปดาห์ต่อมา นาย Garlinghouse ก็ได้เผยกับ Yahoo Finance อีกว่า ถึงแม้จะเพิ่งลงทุนกับ MoneyGram ไป แต่พวกเขาก็ยังมี Deal ที่กำลังเจรจาอยู่อีกหลายอัน:

“เรามีผลงานที่ยอดเยี่ยม ธุรกิจของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เรามีงบดุลที่แข็งแกร่ง และเราก็ตั้งใจที่จะใช้จุดนี้ตักตวงความได้เปรียบต่อไป”

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เผยรายละเอียดว่า กำลังคุยกับเจ้าไหนอยู่ในตอนนี้:

“การเจรจาหรือ Deal นั้นเป็นอะไรที่ทำนายได้ยากมาก ๆ สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือการเร่งให้ตัวเราเองเติบโตเร็วขึ้นอีก ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”

นาย Garlinghouse อธิบายว่า Ripple นั้นเป็นนักลงทุนเจ้าใหญ่ที่สุดในวงการ Blockchain แล้ว:

“ในตอนนี้ เราน่าจะเป็นนักลงทุนเจ้าใหญ่ที่สุดในโลกแล้วที่ลงทุนในวงการ Blockchain และ Cryptocurrency เราเพิ่งประกาศไปว่า ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เราลงทุนไปมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15,220 ล้านบาท)”

และในส่วนของการจับมือกับ MoneyGram นั้น นาย Garlinghouse เผยว่า เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยเข้าไปทำการช่วยเหลือ:

“Moneygram กำลังอยู่ในจุดที่สินทรัพย์ในระดับโลกมหาศาลมาก แต่ตลาดกลับไม่ค่อยเป็นใจเท่าไรนัก ราคาหุ้นของพวกเขาร่วงลงมากจนทำให้เกิดการกดดัน เรารู้สึกว่า เราอยู่ในจุดที่สามารถช่วยพวกเขาได้ และพวกเขาก็อยู่ในจุดที่สามารถช่วยพวกเราได้เช่นกัน”

เขาได้ทำการยกตัวอย่างด้วยว่า xRapid นั้นจะถูกใช้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างค่าเงินในการทำธุรกรรมได้อย่างไร:

“ถ้าคุณเป็นธนาคารกลางของ Oscar และมีเงินอยู่ 1 ปอนด์ และต้องการทำธุรกรรมไปเม็กซิโก คุณแค่ต้องทำการซื้อ XRP ด้วยเงินปอนด์นั้น ซึ่งใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในเว็บเทรดคริปโต จากนั้นทำการโอน XRP นั้นไปเว็บเทรดที่เม็กซิโก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 วินาที ที่เม็กซิโกมีเว็บเทรดที่เราทำงานร่วมกันอยู่ชื่อว่า BitSo และพวกเขาก็รองรับ XRP จากนั้นให้ทำการขาย XRP และนำไปซื้อเงินเปโซเม็กซิโก”

ท้ายสุด นาย Garlinghouse ได้เผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MoneyGram ว่า พวกเขาจะเริ่มใช้ระบบนี้กับคู่เงินดอลลาร์-เปโซเม็กซิโก กับเงินดอลลาร์-เปโซฟิลิปปินส์ก่อน จากนั้นจะค่อย ๆ ทยอยเพิ่มคู่เงินในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้นั่นเอง

ต้องติดตามต่อไปว่า Ripple นั้นจะไปลงทุนหรือจับมือกับโปรเจกต์ไหนต่อ ซึ่งการออกมาอัปเดตนี้ก็ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าใจสถานการณ์ว่า ตอนนี้ Ripple มีสถานะเป็นอย่างไรบ้าง

ที่มา cryptoglobe

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น