<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษกล่าว เงินดิจิทัลจะแทนที่ดอลลาร์ในการเป็นสกุลเงินสำรองของโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางนั้นจะมาแทนที่เงินดอลลาร์ในแง่ของการเป็นสกุลเงินสำรองของโลกได้ กล่าวโดยนาย Mark Carney หรือผู้ว่าฯ ธนาคารกลางแห่งอังกฤษ

โดยเขาได้กล่าวขึ้นพูดคุยในงานสัมมนานโยบายเศรษฐกิจในเมือง Jackson Hole, Wyoming เมื่อวานนี้ ซึ่งนาย Carney ได้พูดคุยถึงความต้องการของนโยบายด้านการเงินและระบบการเงิน (IMFS) ใหม่ พร้อมชี้ว่าในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้กลายมาเป็นสกุลเงินสำคัญของโลกในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา แต่ทว่าปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเช่นการ globalization และสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศได้ในขณะนี้ มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเสียอีก

นาย Carney ได้เน้นย้ำถึงการใช้เงินดอลลาร์ในการออกหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ, การใช้สกุลเงินดังกล่าวเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และการที่บริษัทหลาย ๆ แห่งใช้เงินดอลลาร์เป็นหลัก ทว่าอย่างไรก็ตาม “สภาพเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์นั้น อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั่วโลก”

“ในขณะที่เศรษฐกิจของโลกนั้นกำลังถูกจัดระเบียบใหม่ เงินดอลลาร์นั้นก็ยังสำคัญอยู่ตราบที่ Bretton Woods ล่มสลาย” นาย Carney กล่าว

นอกจากนี้เขายังได้แนะนำตัวเลือกที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์ได้ ซึ่งนั่นรวมถึงสกุลเงินหยวนของจีน, และก็สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกรับรองโดยธนาคารกลางหลายแห่ง โดยเขากล่าวเสริมว่า

“มันเป็นคำถามปลายเปิดที่ว่าสกุลเงินใหม่อย่างเช่น Synthetic Hegemonic Currency (SHC) นั้นจะสามารถถูกจัดหาโดยทางฝั่งรัฐบาลได้หรือไม่ บางทีอาจจะผ่านระบบสกุลเงินของธนาคารกลางก็ได้”

“SHC นั้นอาจจะลดอิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีต่อการค้าโลกได้” กล่าวโดยนาย Carney

เทคโนโลยีนั้นสามารถ disrupt เครือข่ายในปัจจุบันที่ถูกปกป้องโดยเงินดอลลาร์ได้ เขากล่าว พร้อมเสริมว่าจำนวนการธุรกรรมแบบออนไลน์ผ่านระบบอิเล็คทรอนิคส์นั้นเริ่มสูงขึ้นมากกว่าเงินสดแล้ว

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงถึงสกุลเงิน cryptocurrency แต่เขาก็กล่าวว่า “ปัจจุบันต้นทุนของการโอนเงินภายในและระหว่างประเทศผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์กำลังส่งผลทำให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา ซึ่งมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อลดต้นทุนลง, มีความสะดวกมากขึ้น”

ยกตัวอย่างเหรียญ Libra

นอกจากนี้เขายังได้หยิบยกเหรียญ Libra ที่ Facebook ประกาศเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ขึ้นมา โดยโปรเจ็คดังกล่าวนั้นถือเป็นโปรเจ็คแนว stablecoin ที่เอาไว้ใช้จ่ายแทนเงินจริง และมีสกุลเงินหลาย ๆ ประเทศมาค้ำไว้

นาย Carney กล่าวว่า Libra นั้นจำต้องฝ่าฝันอุปสรรคด้านกฎหมายไปให้ได้เสียก่อน

“ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษและหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ มีความชัดเจนไม่เหมือนในสื่อโซเชียลซึ่งกฎหมายมักจะได้รับการพัฒนาหลังจากที่เทคโนโลยีได้รับการยอมรับจากผู้ใช้หลายพันล้านคนแล้ว ซึ่งข้อกำหนดกฎหมายของการใช้งานหรือมีส่วนร่วมกับระบบชำระเงินแบบใหม่ใด ๆ ก็แล้วแต่ จะต้องมีผลก่อนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสมอ”

แม้ว่าในขณะนี้สกุลเงินดิจิทัลนั้นยังไม่พร้อมที่จะแทนที่ดอลลาร์ในด้านสกุลเงินของโล ก “แต่แนวคิดของมันนั้นน่าสนใจทีเดียว” กล่าวโดยนาย Carney

“มันน่าคิดว่า SHC ใน IMFS นั้นจะช่วยรองรับระบบเศรษฐกิจโลกได้อย่างไร หากดูจากขนาดของความท้าทายของ IMFS ในปัจจุบัน และความเสี่ยงในการเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินสำรองใหม่อย่างเช่นหยวน” เขากล่าว

หากเจ้า SHC ตัวนี้สามารถเข้ามาแย่งส่วนแบ่งของการค้าทั่วโลกได้ “ผลกระทบจากสหรัฐฯก็จะมีน้อยลง” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า

“หากทั้งโลกใช้เหรียญโทเค็นเดียวกัน การค้าขายทั่วโลกนั้นก็จะมีความอ่อนไหวต่อเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงด้านสกุลเงินในหลาย ๆ ประเทศ”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น