สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อีกเจ้าของสหรัฐฯ กำลังวางแผนสร้าง stablecoin ที่จะรันอยู่บน Blockchain ของตนเองโดยเหรียญนั้นจะใช้ชื่อว่าเหรียญ ‘Wells Fargo Digital Cash’ ซึ่งเป็นเงินดอลลาร์ในรูปแบบโทเค็นดิจิทัล ซึ่งจะทดลองนำมาชำระเงินภายในบริษัทก่อน

ทางสถาบันได้กล่าวว่าเหรียญนี้ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการโอนเงินระหว่างประเทศในภาคธุรกิจของบริษัท บริษัทที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศของตนก็จะสามารถเคลื่อนย้ายเงินหากันได้โดยใช้โทเค็น

เมื่อบริการทางการเงินในสมัยนี้เริ่มเป็นดิจิทัลมากขึ้น Wells Fargo จึงเห็น “ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการลดอุปสรรคด้านการโอนเงินข้ามพรมแดน เทคโนโลยีสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้” นาย Lisa Frazier หัวหน้าด้านนวัตกรรมของบริษัท

แพลตฟอร์ม DLT บริษัทสามารถทำให้การส่งเงินเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์และไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีหรือโครงสร้างพื้นฐานใด ๆ สามารถทำให้บริษัทที่อยู่ต่างประเทศทำการโอนเงินนอกเวลาปฏิบัติการปกติได้ ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งระบบการชำระเงินคนกลางหรือบุคคลภายนอก ทำให้โอนเงินได้รวดเร็วขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมลง

เทคโนโลยี R3

DLT ของบริษัท Wells Fargo นั้นสร้างอยู่บน Blockchain ของ Corda Enterprise เป็นซึ่งเป็น R3 Blockchain Technology

“R3 Corda Enterprise ถูกสร้างขึ้นมาจากสถาบันการเงินและสร้างเพื่อสถาบันการเงิน โซลูชั่น Distributed Ledger ของมันจะทำให้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม, สามารถสเกลโวลุ่มการทำธุรกรรมและ Throughput ได้ รวมถึงซัพพอร์ตดีไซน์ด้านความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานของ Wells Fargo” โฆษกของธนาคารนาย Roger Cabrera กล่าว

นอกจากนี้สถาบันการเงิน JPMorgan ก็เพิ่งทดสอบเหรียญ JPM Coin ของตนซึ่งสร้างบน Quorum ของ Ethereum ด้วย ทางนักข่าวจึงได้สอบถามไปว่าเหรียญดิจิทัลของ Wells Fargo และ JPM Coin จะเชื่อมโยงถึงกันหรือไม่ ซึ่งทางโฆษกก็ได้ออกมาตอบว่า

“เหรียญ JPM Coin และ Wells Fargo Digital Cash รันอยู่บนเครือข่าย DLT ส่วนตัวซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงถึงกัน”

ไทม์ไลน์

การทดลองใช้เหรียญของ Wells Fargo นี้จะเริ่มในปีหน้าและถ้าหากมันประสบความสำเร็จ เหรียญจะถูกนำไปใช้กับทุกสาขาของ Wells Fargo

“เราเชื่อว่าเทคโนโลยี DLT นั้นสามารถนำไปใช้งานได้หลายอย่าง และเรามุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาพัฒนาการธนาคารและการเงิน เหรียญดิจิทัลของ Wells Fargo จะขจัดอุปสรรคด้านการทำธุรกรรมออกไป สามารถทำให้ธุรกรรมเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ในทุก ๆ บัญชีและตลาดทั่วโลก”

ก่อนหน้านี้เองทาง Wells Fargo ก็เคยเปิดตัวโปรเจ็คด้าน Blockchain ออกมาเช่นกันรวมถึงพัฒนา Banking Prototype ด้วยและได้ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชน Axoni

นอกจากนี้ทาง Wells Fargo ยังเผยอีกว่าจะใช้แพลตฟอร์ม DLT กับประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกด้วย

ที่มา : CoinDesk