อีกหนึ่งความหวังของเครือข่าย Bitcoin นั้นก็คงหนีไม่พ้น Lightning Network ที่เคลมว่าจะเป็นตัวที่เข้ามาแก้ปัญหาการ Scaling ในการทำธุรกรรมของ Bitcoin ทำให้ทั้งค่าธรรมเนียมในการโอนถูก และใช้เวลาในการโอนระดับเสี้ยววินาที พร้อมทั้งเคลมด้วยว่ารองรับการใช้งานในจำนวนมาก
ติดตรงที่ว่า Lightning Network นั้นยังอยู่ในช่วงพัฒนา และยังไม่เปิดใช้งานแบบจริงจัง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีการพัฒนาและแก้ไขบั๊กกันมาเรื่อย ๆ โดยหนึ่งในบั๊กที่เจอกันก็คือ ช่องโหว่ที่ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถขโมยเงินในกระเป๋าของผู้ใช้งานได้เลย
บั๊กดังกล่าวนั้นถูกประกาศต่อสาธารณอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยนักพัฒนา Bitcoin นาม Rusty Russel และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ได้มีการออกมาอธิบายอย่างละเอียดว่า ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้งานโดยแฮ็กเกอร์ได้อย่างไร
อ้างอิงจากการประกาศโดยนาย Russell
“แฮ็กเกอร์สามารถเปิด Channel ในการทำธุรกรรมของ Lightning ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องจ่ายให้กับอีกฝ่าย หรือจ่ายไม่เต็มจำนวนได้”
Lightning Network นั้นเป็น Protocol ที่เป็น Layer ชั้นที่ 2 ในการทำธุรกรรมแบบรวดเร็วและถูกของ Blockchain ของ Bitcoin แต่การที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมแบบนั้นใน Lightning Network ได้นั้น พวกเขาจำเป็นต้องเปิดสิ่งที่เรียกว่า “ช่องทางในการชำระเงิน (Payment Channel)” เสียก่อน จึงจะสามารถส่งหรือรับเงินจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ใน Lightning Network ได้
และหากไม่ระวัง แฮ็กเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่ในการแกล้งเปิด Payment Chnnel ขึ้นมาใหม่ จากนั้นทำการส่ง ‘ธุรกรรมปลอม’ ไปให้อีกฝ่ายได้ ซึ่งผู้ใช้งานที่ไม่รู้เรื่องก็อาจจะเสียหายในส่วนนี้ได้นั่นเอง เพราะเงินที่ส่งจากบั๊กนี้เป็นธุรกรรมแบบปลอม ๆ นั่นเอง และที่น่ากลัวคือ ไม่ทราบว่าตอนนี้มีเหยื่อจำนวนกี่รายแล้วที่ได้รับความเสียหายจากบั๊กนี้
บั๊กได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
อ้างอิงจากนาย Russell โชคยังดีที่ ล่าสุด Client ส่วนใหญ่สำหรับ Lightning Network นั้นได้รับการแก้ไขเพื่ออุดช่องโหว่นี้แล้ว
เมื่อนาย Pierre-Marie Padiou CEO ของบริษัทที่เป็นหนึ่งใน 3 บริการ Lightning ที่ใหญ่ที่สุด ถูกถามว่าทำไมถึงใช้เวลาแก้ไขบั๊ก ๆ เดียวถึง 3 เดือน เขาก็ตอบว่า ปัญหานั้นอยู่ที่ผู้ใช้งานด้วยที่ไม่ยอมอัปเดต Client ตาม:
“เวลา 3 เดือนไม่ใช่เวลาที่นานนะ มันสั้นมาก ๆ เพราะคุณต้องให้เวลาผู้ใช้งานในเครือข่ายในการอัปเดตด้วย…ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่ยอมอัปเดตกัน”
นาย Padiou ได้กล่าวด้วยว่า การที่พวกเขาไม่รีบแจ้งถึงช่องโหว่นี้นั้นเพราะไม่อยากให้ผู้ใช้งานต้องพบกับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น:
“มันมีปัญหาตลอดเวลาแหละ ไม่เว้นแม้แต่ Protocol ของ Bitcoin มันก็ยังมีบั๊กอยู่ มันจะยังคงมีบั๊กเสมอ แต่สิ่งที่สำคัญคือ วิธีที่จะจัดการกับมันให้ผู้ใช้งานปลอดภัยที่สุดต่างหาก”
เป็นอีกก้าวสำหรับ Lightning Network และ Bitcoin เพื่อก้าวสู่การเปิดใช้งานแบบจริง ๆ จัง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานจำนวนมากก็ยังเฝ้ารออยู่ว่า เมื่อไรที่พวกเขาจะได้ใช้งานกัน เพราะถ้าเกิดเปิดใช้จริง ๆ และได้ผล มันคงจะเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อยที่ทำให้ทั้งตลาดและอุตสาหกรรมคึกคักกันทีเดียว ในตอนนี้อีกปัญหาขที่ทำให้ Bitcoin ยังไม่เกิดการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ก็มาจากการทำธุรกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีเหมือนโอนเงินผ่านธนาคารนี่ แต่ด้วย Lightining Network มันจะลบข้อกังขาตรงนี้ไปได้นั่นเอง
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ 8,209 ดอลลาร์ ลดลงมา 0.07 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 13,808 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมที่ 147,462 ล้านดอลลาร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น