Ripple กำลังขยายทีมงานด้านวิศวกรรมและเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภูมิภาคใหม่ด้วยการเข้าซื้อกิจการของ Algrim ซึ่งบริษัทการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในไอซ์แลนด์
ทีม Algrim จะเพิ่มวิศวกรหกคนในทีมของ Ripple โดยจะมุ่งเน้นไปที่การผสมผสานรวมเข้ากับกระดานเทรดคริปโตที่เป็นหุ้นส่วน นอกจากนี้ทีม Algrim จะช่วยพัฒนาระบบชำระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple และมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สภาพคล่องตามความต้องการของบริษัท กล่าวโดย Amir Sarhangi รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Ripple อย่างไรก็ตาม Ripple ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสำหรับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้
“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความชำนาญ” Sarhangi กล่าว “ทีมนี้มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้อยู่แล้วซึ่งมากกว่าทีมที่เราจะสร้างขึ้นมาใหม่”
สำหรับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะเป็นการขยายกิจการครั้งแรกของบริษัทเข้าสู่ประเทศไอซ์แลนด์ ปัจจุบัน Ripple มีหุ้นส่วนบริษัทอยู่ในซานฟรานซิสโก , นิวยอร์ก , ลอนดอน , มุมไบ , สิงคโปร์ , เซาเปาโลและซิดนีย์ โดยบริษัทต้องการขยายขีดความสามารถในการจ้างคนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิศวกรรม ขณะที่มันเคลื่อนเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ของโลก Sarhangi กล่าวเสริม
ซึ่งนั่นจะเป็นสภาพคล่องแบบ On-demand ผ่านทางบริการชำระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple’s xRapid ที่ช่วยให้บริษัทสามารถโอนเงินจากสกุลเงินหนึ่งไปยัง XRP และจาก XRP ไปยังสกุลเงินอื่น โดยสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถหลีกเลี่ยงการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศที่พวกเขาต้องการชำระเงิน โดย Ripple กล่าวว่าตอนนี้มีลูกค้ามากกว่าหนึ่งโหลที่ใช้ XRP สำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
ในช่วงก่อนที่จะมีการเข้าซื้อกิจการ ทางบริษัท Algrim ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตที่รวมเข้ากับกระดานเทรดมากกว่า 30 แห่ง ซึ่งในขณะนั้นทีมงานได้สร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบดั้งเดิมและอัลกอริทึมการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมานานกว่าทศวรรษ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าบริษัท Algrim ได้ตกเป็นเหยื่อของ “Big Bitcoin Heist” ในไอซ์แลนด์เมื่อปลายปี 2017
อ้างอิงจากรายงาน Ripple’s investment arm Xpring เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ได้เผยถึงการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Logos Network ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้นำวิศวกรเก้าคนมาสู่ทีม Xpring โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ XRP ( DeFi) ก่อนที่ Logos จะเข้าร่วมกับทีม Xpring บริษัทได้มีการดำเนินงานเพื่อสร้างเครือข่ายการชำระเงินที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก bitcoin blockchain โดยมุ่งเน้นสร้างเครือข่ายที่รวดเร็ว , สามารถปรับขนาดได้ และมีความปลอดภัยระดับสูง
ที่มา : coindesk
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น