<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารแห่งหนึ่งในเยอรมันทำนายว่าราคา Bitcoin จะพุ่งไปแตะ 2.7 ล้านบาทหลัง Halving

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำนักข่าว Beincrypto รายงานว่าธนาคาร BayernLB ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมิวนิกประเทศเยอรมันได้วิเคราะห์ถึงมูลค่าของ Bitcoin เมื่อเทียบกับหลักแลกเปลี่ยนอื่นๆ ธนาคาร BayernLB คาดว่าการ Halving ของ Bitcoin นั้นถือเป็นเอกลักษณ์ทางการเงินแบบใหม่ ทำให้ทางธนาคารเชื่อว่ามูลค่าของ Bitcoin จะขึ้นไปถึง 90,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญหลังจากที่มีการ Halving ในปีหน้า

รายงานการคาดการณ์ของ BayernLB ใช้โมเดลกราฟแบบ “stock-to-flow” ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบอัตราส่วนของค่า Bitcoin ที่เก็บสำรองไว้กับค่าจำนวน Bitcoin ที่ถูกปล่อยออกมา โมเดล stock-to-flow นั้นถูกนำไปใช้กับทองคำหรือเงินก็ได้ รายงานชิ้นนี้มองว่าอัตราส่วนดังกล่าวบ่งบอกถึงความแข็งแรงของเหรียญ Bitcoin ได้

จำนวน Bitcoin ที่เก็บสำรองไว้นั้นจะถูกปล่อยออกผ่านปัจจัยระบบรางวัลของเน็ตเวิร์คและค่าดิฟของการขุดเหรียญนั้นๆ ผู้เขียนรายงานชิ้นนี้กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนปริมาณการไหลเวียนของเหรียญ Bitcoin นั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เอกลักษณ์ข้อนี้ทำให้ Bitcoin มีลักษณะคล้ายกับทองคำ

รายงานเปรียบเทียบค่าสัดส่วน stock-to-flow ของทองคำกับ Bitcoin ต่อ มันบอกว่าทองคำนั้นมีสัดส่วน stock-to-flow ที่สูงมาเป็นเวลากว่าพันปีแล้ว ส่วน Bitcoin นั้นถูกโค้ดมาให้อยู่ในรูปแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้นค่า stock-and-flow ของ Bitcoin จึงขึ้นเร็วกว่าค่าเงินอื่นๆ ที่มีอยู่

ผู้เขียนรายงานเขียนว่าค่าสัดส่วน stock-to-flow ที่สูงนั้นถือว่าทำให้ความต้องการของหลักแลกเปลี่ยนนั้นๆ มีสูงขึ้น สถานะการเป็นสินทรัพย์ของ Bitcoin นั้นจะทำให้การรับเหรียญนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคตเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในรายงานมีเนื้อหาว่า

“หากพูดกันตามประวัติศาสตร์แล้ว สินทรัพท์ที่มีค่า stock-to-flow สูงที่สุดนั้นจะถูกนำไปใช้เป็นเงินแลกเปลี่ยนตลอดเนื่องจากมันสามารถมีมูลค่าแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดได้เมื่อเวลาผ่านไป”

รายงานเห็นต่างจากแฟนพันธ์แท้ทองคำตรงที่ว่ารายงานชิ้นนี้เชื่อว่าการที่ทองคำไม่มีบทบาทในการใช้งานด้านอุตสาหกรรมนั้นจริงๆ แล้วจะทำให้ทองคำเป็นค่าเงินแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมที่สุด แร่ที่เป็นที่นิยมกันในอุตสาหกรรมอย่าง palladium นั้นปกติจะมีค่า stock-to-flow ที่ต่ำ ถึงแม้ว่าสินทรัพย์นั้นๆ จะมีอยู่ในสำรองต่ำ ค่าการผลิตก็สามารถทำให้มันไม่มีคุณสมบัติเป็นเงินแลกเปลี่ยนที่ดีได้ เพราะปริมาณ palladium ในสำรองจะไม่มีมูลค่าเลยถ้าราคาของมันร่วง 

นักวิจัยของ BayernLB มองว่าบทบาทการเป็นเงินแลกเปลี่ยนของ Bitcoin ที่ค่อนข้างน้อยนั้นเป็นจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน มันทำให้โมเดล stock-to-flow มีความแม่นยำมากขึ้นเพราะไม่มีตัวขับที่คาดการณ์ไม่ได้ของฝั่งอุปสงค์ ทำให้เกิดเป็นระบบที่ “ไม่มีอุปสงค์ที่คาดไม่ได้เกิดขึ้น” ซึ่งจะทำให้รูปแบบราคาแปรปรวน

รายงานชิ้นนี้สรุปโดยพูดถึง Bitcoin Future คู่กับการ Halving สองครั้งในอนาคต หลังจากที่ยอมรับว่าสัดส่วน stock-to-flow อาจจะไม่ได้คำนึงถึงเหตุการณ์อื่นในอนาคตและการ Halving ครั้งต่อไปจะลดอัตราส่วนของ Bitcoin ลงไปต่ำกว่าทองคำ มันบอกว่า:

“ถ้าอัตราส่วน stock-to-flow ของ Bitcoin ในเดือนพฤษภาคมปี 2020 ถูกแสดงในโมเดล ราคา Bitcoin ที่ 90,000 ดอลลาร์จะโผล่ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นการบ่งบอกว่าผลของการ Halving ในอนาคตนั้นยังไม่ได้ส่งผลต่อราคา Bitcoin ในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 8,000 ดอลลาร์เลย (มูลค่าในโมเดลตอนนี้อยู่ที่ 7,500 ดอลลาร์)”

นักวิเคราะห์สกุลเงินติจิตอลในทวิตเตอร์ชื่อดังอย่าง PlanB (@100trillionUSD) ออกมาสนับสนุนทฤษฎีของธนาคาร BayernLB เขาก็มองราคาโดยใช้สัดส่วน stock-to-flow เช่นกัน เขาบอกว่าการ Halving ครั้งต่อไปยังไม่เริ่มสร้างผลกระทบให้กับราคา Bitcoin ในตอนนี้ ดังนั้นแล้ว Bitcoin อาจจะมีราคาที่สูงขึ้นเป็นแนวดิ่งจนไปถึงหกหลักเมื่อถึงพฤษภาคม 2020 เขาโพสต์ว่า:

“#bitcoin halving…ในอีก 7 เดือนข้างหน้า BTC ในตอนนี้อยู่ต่ำกว่าโมเดล stock to flow เล็กน้อย ผมเดาว่าไม่มีผลกระทบจากข่าวการ halving (ในตอนนี้!)”

 

ที่มา Beincrypto

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น