<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารเกียรตินาคินเตรียมให้เงินทุนซีรีย์ A สำหรับ ‘โทเค็นหลักทรัพย์’ ของสตาร์ทอัพ ISTOX แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ISTOX ซึ่งแพลตฟอร์มโทเค็นหลักทรัพย์ ( STO) ที่ได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ ล่าสุดได้เริ่มเข้าสู่การระดมทุนในซีรีย์ A แล้ว โดยมีธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยร่วมลงทุนอยู่ด้วย นั้นก็คือกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)

ในขณะที่บริษัทปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงทางการเงิน บริษัทกล่าวว่า KKP เป็นสถานบันนักลงทุนเพียงรายเดียวในการระดมทุนรอบล่าสุด

ในส่วนของเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนเพิ่มนั้น บริษัทจะใช้เป็นกองทุนสำรองในการขยายฐานผู้ใช้งาน , การออกโทเค็นหลักทรัพย์ เช่น หุ้น , พันธบัตรและโครงสร้างผลิตภัณฑ์ รวมถึงการขยายบริษัทในทวีปเอเชีย

แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นเจ้าของโดย ICHX Tech ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี blockchain และ smart contract ที่ได้รับเงินทุนจาก Singapore Exchange (SGX) และ Heliconia Capital Management ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยของ Temasek Holdings

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา iSTOX ได้รับการยอมรับให้เป็นโปรเจค Sandbox ที่ถูกควบคุมโดยบริษัท Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสิงคโปร์ นาย Chew Sutat รองประธานฝ่ายบริหารของ SGX และนาย Chua Kim Leng อดีตที่ปรึกษาพิเศษของ MAS ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการของ ICHX Tech

iSTOX ได้สร้างความคุ้นเคยให้กับผู้ออกหลักทรัพย์และนักลงทุนในเปิดตัวระดมทุนในชุดแรก ซึ่งการซื้อขายหลักทรัพย์แบบดิจิทัลดังกล่าวจะเปิดตัวในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ อ้างอิงจากบล็อกโพสต์ของบริษัท

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า “การแปลงหลักทรัพย์ไปเป็นระบบดิจิทัลนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับปรุงระบบออนไลน์ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (Reintermediation) , ห่วงโซ่แห่งคุณค่า (value chain) และการนำเสนอโซลูชั่นที่ยังไม่มีให้บริการในตลาดทุนทั่วไป

iSTOX จะสามารถเปิดประตูสู่ตลาดทุนภาคเอกชน ซึ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถหาได้ นาย Darius Liu เจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับทาง CoinDesk

“ทุกวันนี้นักลงทุนมากมายไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่พวกเขาต้องการจากตลาดการเงินสาธารณะและมันน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับโอกาสการลงทุนในตลาดส่วนตัว(private market) เช่น หุ้นในสตาร์ทอัพซีรีส์ B , หุ้นกู้ (corporate debt) และเฮดฟันด์” Liu อธิบายเพิ่มเติม

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้น “ไร้ระเบียบและไร้ความโปร่งใสมาก” ซึ่งมันต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่สูงจากพ่อค้าคนกลางและการชำระหนี้ในระยะยาว Liu กล่าวว่า เราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีเฉพาะบุคคลที่มีเงินเยอะ ๆ เท่านั้นที่จะสามารถแข่งขันในตลาดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทเชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสได้อย่างเท่าเทียมกัน , การลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากและเปิดตัวการลงทุนในภาคเอกชนให้กับนักลงทุนที่ได้รับการรับรองและสถาบันอย่างมีประสิทธิภาพ

“ด้วยการเสนอหุ้นใหม่ , การรับฝากหลักทรัพย์ และการซื้อขายในตลาดสำรองไว้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันนี้ iSTOX จะกลายเป็นร้านค้าแบบครบวงจรสำหรับนักลงทุน”  Liu กล่าว “สิ่งนี้สำคัญเพราะหากคุณขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปมันจะทำให้คุณเสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนเพิ่มขึ้น”

iSTOX ได้ว่าจ้างบริษัทกฎหมายสามแห่งเพื่อให้คำแนะนำแก่ ผู้ออกหลักทรัพย์เกี่ยวกับโครงสร้างและกระบวนการออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้แก่ Allen , Gledhill LLP, Baker McKenzie Wong , Leow , Rajah และ Tann

ที่มา Coindesk

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น