เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาหากใครที่ยังจำกันได้นั้นราคา Bitcoin มีการปรับตัวขึ้นสูงเป็นอย่างมากซึ่งหากให้เทียบจากราคาแล้วก็มีการเติบโตมากถึง 20 เท่าด้วยกันซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าจากการที่ราคาของ Bitcoin มีการปรับขึ้นขนาดนี้ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ทั้งหลายต่างต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่หลายคนเรียกว่าเป็น ‘ขุมทองใหม่’ หรือก็คือ Bitcoin นั้นเอง
ซึ่งแน่นอนว่ามีอีกหลายคนที่มองว่ามันเป็นเหมือนกับฟองสบู่ (Bitcoin Bubble) ที่หมายถึงช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2017 อย่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม โดยในเวลานั้นเองมีผู้คนพูดถึง Bitcoin เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ และทุกคนต่างรีบซื้อเพราะกลัวที่จะตกรถไฟขบวนนี้กันทั้งนั้น นอกจากนี้แล้วยังเกิด Youtuber อีกหลายคนด้วยกันที่เข้ามาปฏิวัติวงการคริปโตในตอนปี 2017 ที่ผ่านมาและสร้างชื่อเสียงให้กับนักวิเคราะห์อีกหลายในโลกคริปโตเคอเรนซี่เช่นกัน
ทางด้านนาย Carl Eric Martin ผู้ซึ่งรู้จักกันดีในนาม The Moon Carl ที่มีอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้นซึ่งเขาเป็น Youtuber ยุคแรก ๆ ของวงการคริปโตเคอเรนซี่ที่สร้างชื่อเสียงมาจากเหตุการณ์ฟองสบู่เมื่อตอนปี 2017 จนถึงปัจจุบันปี 2019 ช่องของเขายังคงเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกันด้วยสิ่งที่เขาทำก็คือการลงคลิปข้อมูลหรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอยู่แทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับและมีคนติดตามในที่สุด
โดยเมื่อไม่นานมานี้เองทาง Cryptopotato ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางนาย Carl Eric Martin เจ้าของช่อง The Moon Carl เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการทำช่องเขาและการสร้างเนื้อหาในทุก ๆ วันที่สำคัญที่สุดเลยก็คือเขาคาดการณ์อย่างไรบ้างเกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin และ Altcoin ที่เขาถืออยู่ในตอนนี้
The Moon Carl
ครั้งแรกที่คุณได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่คุณรู้สึกอย่างไรแล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเข้ามาในโลกของคริปโตเคอเรนซี่ขนาดนี้ ?
ครั้งแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin มันคือเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นผมตั้งใจศึกษาหาข้อมูลมันอย่างเต็มที่และยิ่งค้นคว้าผมเหมือนยิ่งเสพติดมันในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Bitcoin ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงทุกวันในการศึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้แล้วผมยังเรียนมาทางด้าน เศรษฐศาสตร์ดังนั้น Bitcoin ทำให้ผมรู้สึกเป็นเงินในรูปแบบใหม่ทันที ความรู้ของผมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเงินคือสาเหตุที่ผมติดมันงอมแงมในทันทีที่ได้ศึกษาเจ้าเหรียญสีส้ม ๆ นี้ครับ
บทเรียนสำคัญที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ควรเรียนรู้จากเหตุการณ์ Bitcoin Bubble ในปี 2017 คืออะไร
ผมคิดว่าการเกิด Bitcoin Bubble ในปี 2017 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมองตลาดผิดพลาด สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกเลยก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คนขับแท็กซี่หรือคนงานทั่วไปเร่ิมบอกให้คุณเข้าซื้อ Bitcoin เพราะพวกเขาทำเงินได้หลายพันดอลลาร์จากมัน เมื่อนั้นพวกเราควรจะเริ่มทยอยขาย Bitcoin ได้แล้ว
สำหรับในปี 2019 ผมคิดว่าผู้คนไม่ได้ให้ความสนใจกับ Bitcoin มากขนาดนั้นซึ่งมีหลายคนที่ผมพบเจอและบอกว่าราคาของ Bitcoin จะลงไปที่ 3,000 ดอลลาร์และตายในไม่ช้า นี้ละครับคือช่วงที่คุณควรจะสะสมมันอย่างแท้จริงเลยละ
เคล็ดลับแรกที่คุณจะให้กับคนอื่น ๆ ในการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่คืออะไรครับ ?
ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เคยได้ยินเคล็ดลับที่เป็นที่นิยมกันมาเยอะแล้ว แต่ผมเชื่อว่าผู้คนมักจะประเมินพลังของการมีเป้าหมายของตัวเองต่ำไป ดังนั้นเคล็ดลับของผมก็คือการกำหนดเป้าหมายในการซื้อขายระยะยาว และรวมถึงการตั้งเป้าหมายซื้อขายรายเดือนหรือรายสัปดาห์ จะช่วยให้พวกคุณเข้าทำการซื้อขายได้ตรงตามความต้องการที่แท้จริงของคุณมากที่สุดเพราะคุณรู้แล้วว่าภาพรวมมีความสำคัญต่อการเทรดทุกครั้งเป็นอย่างมากครับ
ไหน ๆ คุณก็พูดมาขนาดนี้แล้วคุณลองช่วยแบ่งปันมุมมองระยะสั้นและแผนระยะยาวของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม ?
ผมเชื่อว่า Bitcoin กำลังอยู่ในช่วง falling wedge กับ bullish bias ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ราคาของ Bitcoin ขยับกลับขึ้นมาเหนือเส้น MA 200 ให้ได้ซะก่อนเพราะว่าเมื่อเป็นอย่างนั้นทุกอย่างจะชัดมากขึ้นและผมเชื่อว่าเราสามารถ Long (ซื้อ) จากจุดตรงนั้นได้และคาดหวังให้ไปถึง 14,000 ดอลลาร์ครับ
ส่วนในระยะยาวผมคิดว่าราคาของ Bitcoin ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้นนอกจากนี้เรื่องของราคาแล้วผมยังคิดว่าความมั่นใจของผู้คนที่มีต่อ Bitcoin เองก็จะอยู่ในระดับสูงเช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับแรงผลักดันที่เรามีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาด้วย แต่สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าราคาของ Bitcoin จะไปถึงราคา 200,000 ดอลลาร์แน่นอนครับ
ยิ่งไปกว่านั้นหากมองในระยะไกลมาก ๆ ผมยังคงเชื่อว่า Bitocin สามารถไปถึงระดับ 1 ล้านดอลลาร์ต่อ Bitcoin เป็นเรื่องที่ทำได้จริงเพราะผมเชื่อว่า Bitcoin เป็นรูปแบบของเงินที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาและในที่สุด Bitcoin จะครองตลาดสกุลเงินในที่สุดครับ
ในความคิดเห็นของคุณเราจะได้เห็น All Time High ใหม่ของ Altcoin บ้างหรือเปล่า แล้วถ้าหากให้เลือกมา 5 เหรียญคุณจะเลือกเหรียญไหนบ้างถ้าต้องถือไปอีก 10 ปี
ส่วนตัวและเอาตรงๆ เลยนะครับผมคงไม่เลือก Altcoin สักเหรียญเลยมาค้างไว้ในพอร์ทของผมเป็นระยะเวลา 10 ปี มันฟังดูเป็นความคิดที่น่ากลัวมาก ๆ ที่จะถือเหรียญพวกนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีครับ
ปัจจุบันนี้คุณมีผู้ติดตามมากมาย คุณทำได้อย่างไร และแหล่งข้อมูลขอคุณคือที่ไหนกันที่ทำให้คุณสำเร็จได้ขนาดนี้ ?
สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมมาอยู่ตรงนี้ได้เลยก็คือความหลงไหลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ นี่เป็นเรื่องที่จริงเอามาก ๆ เพราะจากที่ผมเจอผู้คนมาพวกเขาทุกคนที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่หลงไหลในสิ่งที่พวกเขาทำ
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญอีกอย่างของผมคือการทำ SEO ให้สอดคล้องกับที่ Google ชอบมันเป็นอาวุธลับของผมเลยเพราะหากผมปรับให้มันสอดคล้องกับ SEO ได้ผมก็สามารถไปอยู่บนอันดับสูง ๆ ของ youtube และผลการค้นหาของ Google ได้ครับ
ตัวอย่างเช่นทุก ๆ เดือนผมจะมีผู้ชมที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google มากถึง 50,000 คลิกด้วยกันที่ผู้คนค้นหาเกี่ยวกับคำว่า Bitcoin และเจอวิดีโอของผมบน Youtube นอกจากนี้ผมยังได้สมาชิกใหม่จำนวนมากแทบทุกวันจาก Tutorials ของผมเองที่ทำให้มีผู้ชมเข้ามาดูทุกวันซึ่ง tutorials ที่มีคนดูมาก ๆ ก็อย่างเช่นสอนการใช้ Bitmex และสอนการใช้ My Bybit ซึ่งมันทำให้เกิดผู้ติดตามใหม่ ๆ เข้ามามากมาย ดังนั้นแล้วการทำ SEO จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ครับ
คุณคิดว่าราคา Bitcoin จะสูงที่สุดเท่าไหร่ในปี 2020 หลังจากการ Halving ครั้งสำคัญ ?
60,000 ดอลลาร์ครับ นั้นคือราคาสูงสุดที่ผมคิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดในปี 2020 ผมเชื่อว่าอีกไม่นานราคาจะต้องทำจุดสูงสุดใหม่อย่างแน่นอนที่ทะลุ 20,000 ดอลลาร์และผมมั่นใจสูงมาก ๆ ด้วยครับ
แล้วในปี 2030 ละคิดว่าไงบ้างครับ ?
ผมคิดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000,000 ดอลลาร์ครับมันเป็นราคาที่เป็นไปได้ก่อน 2030
สุดท้ายแล้วอยากให้คุณช่วยแชร์ชีวิตธรรมดาของคุณหน่อยจะเกี่ยวกับคริปโตหรือไม่ก็ได้ ?
ผมชอบในเสียงเพลงมาก ก่อนหน้านี้ที่ผมจะรู้จักกับ Bitcoin ผมเคยเป็นนักดนตรีมาก่อนผมหลงไหลมันมาก ๆ แต่ถ้ามีคนมาจากอนาคตแล้วบอกกับผมว่างานในอีก 5 ปีของนายคือการนั่งอยู่หน้ากล้องและสอนคน 70,000 คนเกี่ยวกับเงินในโลกออนไลน์หรือคริปโตละก็ผมต้องคิดว่าเขาคนนั้นบ้าแน่นอนครับ !
ที่มา : cryptopotato
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น