หนึ่งใน ICO ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น ICO ของ Telegram ผู้ให้บริการส่งข้อความยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีผู้ใช้งานหลายล้านคน พวกเขาสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 51.77 พันล้านบาท
กลต. สหรัฐฯ ฟ้องร้อง Telegram
แต่ก่อนหน้านี้สุด TON และ Telegram ผู้ดำเนินการทำ ICO ของ Telegram ได้ถูกฟ้องร้องโดยกลต. สหรัฐฯ (SEC) ว่า พวกเขาได้ทำการขายโทเคนที่ ‘ผิดกฎหมาย’ เนื่องจากไม่ทำตามกฎระเบียบที่วางไว้
กลต. สหรัฐฯ ได้กล่าวในการฟ้องร้องนั้นว่า ทางผู้ออก ICO ของ Telegram น้ันละทิ้งความรับผิดชอบในการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการระดมทุนในที่สาธารณะไป พวกเขาเลยเข้ามาห้ามเนื่องจากต้องการลดความเสี่ยงของนักลงทุน
นาย Avakian ได้ชี้ว่า กลต. สหรัฐฯ เชื่อว่า Grams นั้นไม่ผ่านเกณฑ์ของพวกเขา:
“เราได้ทำการกล่าวหาว่าจำเลยว่า พวกเขาล้มเหลวที่จะให้ข้อมูลนักลงทุนต่าง ๆ เกี่ยวกับ Gram และ การดำเนินการทางธุรกิจ, เงื่อนไขทางการเงิน, ปัจจัยความเสี่ยง และการจัดการของ Telegram ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกฎหมายหลักทรัพย์”
นาย Stephanie Avakian ผู้อำนวยการร่วมของกองบังคับการ ก.ล.ต. ได้กล่าวเกี่ยวกับการร้องเรียนครั้งนี้ว่า:
“การลงมือดำเนินการอันฉุกเฉินของเราในวันนี้มีความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้ Telegram เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ด้วยโทเคนดิจิทัลที่เราเชื่อว่าไม่ได้ทำการขายอย่างถูกกฎหมาย”
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้กำหนดการต่าง ๆ เช่นการปล่อยเหรียญ Telegram ให้กับนักลงทุนเจ้าแรก ๆ ภายในสิ้นเดือนนี้อาจเกิดการล่าช้าไปได้
Telegram ผิดหวังกับกลต. สหรัฐฯ
ในเวลาต่อมา ทางนักพัฒนาของ TON หรือ Telegram Open Network เลยออกมาอัปเดตให้กับนักลงทุนของพวกเขาฟังว่า รู้สึกผิดหวังมาก ๆ กับทาง กลต. สหรัฐฯ และก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่า 18 เดือนก็ได้มีการสื่อสารกับทาง กลต. สหรัฐฯ เรื่อย ๆ การฟ้องร้องในครั้งนี้เลยทำให้พวกเขาเซอร์ไพรส์มาก
“เราทั้งเซอร์ไพรส์และผิดหวังกับการที่กลต. สหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะฟ้องร้องพวกเราภายใต้เงื่อนไขเหล่านั้น และเราไม่เห็นด้วยกับพวกเขา”
ในขณะที่รายงานอยู่นี้ นักพัฒนาของ TON กำลังหารือกับที่ปรึกษาต่าง ๆ เพื่อหาลู่ทางออกที่ดีที่สุด:
“เราจะทำการหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นี้ต่อไป และอาจเกิดการดีเลย์วันเปิดตัวได้”
จากคำประกาศข้างต้น ก็อาจจะชัดเจนแล้วว่า แผนในการเปิดตัวในปลายเดือนตุลาคมของพวกเขานั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ให้หมดจดก่อน ซึ่งนักลงทุนใน ICO นี้ก็คงต้องเฝ้ารอกันต่อไปว่า ทาง Telegram จะมีทางออกเช่นกัน
ที่มา : news.u.today
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น