<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงตลาดขาลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะนี้ Bitcoin กำลังเผชิญกับแรงกดดันในการขายที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีแนวโน้มที่จะราคาลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดที่แถว ๆ  7,750 ดอลลาร์

สกุลเงินคริปโตอันดับ 1 อ้างอิงตามมูลค่าตลาดได้ร่วงลดลงจาก 8,326 ดอลลาร์ เหลือ 8,086 ดอลลาร์ ในเวลาเพียง 60 นาทีเท่านั้น (ตามช่วงเวลา 17:00 UTC ในวันอังคาร) ซึ่งนั่นเป็นการร่วงทะลุระดับแนวรับสำคัญที่  8,450 – 8,250 ดอลลาร์ ตามที่คาดเอาไว้

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา BTC ก็วิ่งไซด์เวย์ที่แถว ๆ 8,100 ดอลลาร์มาตลอด นักวิเคราะห์ราคาคริปโตบางคนมีความเห็นว่า BTC ได้ร่วงทดสอบแนวรับที่สำคัญชั่วคราวใกล้ ๆ กับระดับ 7,750 ดอลลาร์และการลดลงจากระดับที่สูงกว่า 8,300 ดอลลาร์นั่นอาจเป็น Bear Trap หรือกับดักหมี

อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้แรงเทขายเริ่มลดน้อยลงแล้ว ตามสัญญาณ bullish divergence ของตัวบ่งชี้ RSI ราย 14 วัน ซึ่งเป็นดัชนีทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

จนถึงตอนนี้มันยังไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนได้ นอกจากนี้ตัวบ่งชี้ระยะยาวได้ชี้ให้เห็นว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงขาลง

ตัวอย่างเช่นดัชนี Chaikin Money Flow (CMF) รายสัปดาห์รวมทั้งราคาและวอลุ่มการซื้อขายที่ใช้ชี้วัดแรงกดดันในการซื้อและขายนั่นได้อยู่ที่ระดับ -0.14 ซึ่งมันต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ซึ่งหาก CMF อยู่ที่ระดับต่ำกว่าศูนย์ ก็จะแสดงว่าแรงขายหรือเงินทุนได้โยกย้ายออกจากตลาด bitcoin และนั่นสูงกว่าแรงกดดันในการซื้อหรือเงินทุนที่ไหลเข้ามาในตลาด

พูดง่ายๆ ก็คือ ตัวบ่งชี้เหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และอาจร่วงลดลงสู่แนวรับที่สำคัญถัดไปตามภาพด้านล่าง ซึ่งช่วงเมื่อวานนี้ Bitcoin ได้ร่วงลดลงสู่ระดับ 8,100 ดอลลาร์ อ้างอิงราคาจาก Bitstamp

กราฟรายสัปดาห์ 

ดัชนี CMF (ซ้ายบน) ได้ลดลงต่ำกว่าศูนย์ เมื่อสิ้นสุดเดือนกันยายน ดังนั้นมันยืนยันแล้วว่าตลาดได้กลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นไปเป็นขาลงและตอนนี้เห็นได้ว่ามันอยู่ที่ระดับ -0.14

ในอดีตเราจะเห็นได้ชัดเจนว่าหากค่า CMF อยู่ในเชิงลบมันก็จะหมายความว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงตลาดขาลง ตัวอย่างเช่น CMF แตะระดับต่ำสุดที่ -0.15 ในเดือนกุมภาพันธ์โดยในช่วงเวลานั้น BTC มีราคาอยู่ที่ต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ ซึ่งมันใช้เวลาเกือบสองเดือนก่อนที่จะบุกเข้าสู่ตลาดกระทิงในช่วงต้นเดือนเมษายน

อย่างไรก็ตามสัญญาณขาลงล่าสุดนั้นดูค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะว่ามันไม่มีสัญญาณการกลับตัวไปในเชิงบวกเมื่อดูจากกราฟราคารายสัปดาห์

ดูเหมือนว่า CMF จะค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะมีแรงสนับสนุนจากเส้น MA ราย 100 สัปดาห์ก็ตาม แต่นักลงทุนก็ยังคงเชื่อว่าตลาดนั่นอยู่ในช่วงขาลง อย่างไรก็ตามดัชนี CMF จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในเส้น MA ราย 100 สัปดาห์ 

นอกจากนี้ MACD histogram ยังทำกราฟแท่งเทียนที่ลึกกว่าเส้น 0 ซึ่งบ่งชี้ได้ว่ามันมีการเพิ่มขึ้นของโมเมนตัมแนวโน้มขาลง

ยิ่งไปกว่านั้น RSI ราย 14 สัปดาห์ยังได้ลดลงต่ำกว่าระดับ 53.00-55.00 ซึ่งที่ระดับนี้เป็นระดับแนวรับที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปี 2016-2017 ในขณะเดียวกันเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ราย 5 และ 10 สัปดาห์ ก็มีแนวโน้มที่จะมุ่งหน้าลงใต้

ตัวบ่งชี้ทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าราคา Bitcoin จะมีการ Retest อีกครั้งและอาจจะร่วงลงต่ำกว่าเส้น MA ราย 100 สัปดาห์ที่ระดับ 7,758 ดอลลาร์

กราฟรายวันและเส้นแนวโน้ม

เส้น MA ราย 50 วันที่ต่ำกว่าเส้น MA ราย 100 วัน ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง อ้างอิงข้อมูลจากนาย Naeem Aslam นักวิเคราะห์ตลาดของ ThinkMarkets FX และเป็นผู้สนับสนุน Forbes

BTC กำลังสร้างรูปแบบขาลงด้านนอกแท่งเทียนในวันอังคาร ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงเทขายที่รุนแรงในวันที่ 11 ต.ค. ณ ระดับราคา 8,820 ดอลลาร์

RSI ยังคงอยู่ในแดนขาลงที่ต่ำกว่า 50 และ MACD ก็กำลังสร้างแท่งเทียนอยู่เหนือเส้น 0 ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับฐานราคาจากระดับ 7,750 ดอลลาร์นั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว

นอกจากนี้สัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI ในกราฟรายวันก็ได้จางหายไปแล้ว เนื่องจากการปฏิเสธที่แข็งแกร่งที่เส้น MA ราย 200 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอาจส่งผลกระทบต่อ BTC

ในปีนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกคาดว่าจะลดลงเหลือ 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 โดยลดลงจากระดับ 3.8% ในปี 2017 ตามรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

นอกจากนี้ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกกฏหมายความร่วมมือระหว่างสองพรรคเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง

จีนมองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการแทรกแซงเรื่องภายในและได้ขู่ว่าจะมีการตอบโต้ หากสหรัฐฯยังคงผลักดันมาตรการที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง

ซึ่งนั่นเป็นผลทำให้สินทรัพย์ความเสี่ยงสูงกลายเป็นสีแดงทั่วทั้งกระดาน โดยขณะที่เขียนบทความนี้หุ้นในสหราชอาณาจักร , เยอรมนีและฝรั่งเศส ได้ร่วงลดลงเล็กน้อย ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลดลงร้อยละ 0.44 ในขณะที่การซื้อขายในเอเชียและฟิวเจอร์สของ S&P 500 ในปัจจุบันนั้นลดลง 0.36%

ในขณะเดียวกันสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น เงินเยนและทองคำของญี่ปุ่นนั้นมีผลตอบแทนที่ดีกว่า 

ความเกลียดชังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงนั่นอาจเป็นลางที่ไม่ดีสำหรับ BTC เนื่องจากคริปโตเคอเรนซี่อันดับหนึ่งยังคงถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างมาก ตามกรณีศึกษาล่าสุดและไม่มีเรื่องราวใดที่บ่งชี้ให้เห็นว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

ที่มา : coindesk.com

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น