ในเดือนพฤษภาคมปี 2020 มันจะเป็นอีกครั้งที่ Bitcoin และวงการคริปโตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจาก Bitcoin จะมีการ Halving เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ และในครั้งนี้ผู้คนมากมายต่างก็คาดหวังว่าจะทำให้ตลาดคริปโตทะยานขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้ ในทุก ๆ ครั้งที่มีการ Havling เสร็จ ราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปทำ New High เนื่องจากจำนวนของ Bitcoin ในระบบ หรือ Supply ของมันนั้นจะมีจำกัดมากขึ้น และในรอบนี้ นักลงทุนก็คาดเดาว่าอาจจะทำให้ตลาดคริปโตมีมูลค่าถึงล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 142 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 0.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในจุดสูงสุดของมันที่ราคา Bitcoin เกือบแตะ 20,000 ดอลลาร์ มันมีมูลค่าโดยรวมอยู่ 0.3 พันล้านดอลลาร์ เมื่อตอนเดือนธันวาคม 2017
ในปัจจุบัน มูลค่าโดยรวมของ Bitcoin นั้นยังห่างไกลกับสินทรัพย์ที่มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบบ่อย ๆ เช่นทอง เนื่องจากมันมีมูลค่าโดยรวมที่ 8 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วในเดือนพฤษภาคม 2020
นอกจากการ Halving จะทำให้จำนวน Bitcoin ที่ถูกปล่อยออกมาลดลงแล้ว มันยังทำให้ความต้องการของนักลงทุนมีมากขึ้นด้วย เพราะมันหายากขึ้นนั่นเอง และเมื่อ Supply ลดลง และ Demand เพิ่มขึ้น มันก็เป็นเรื่องปกติที่ราคาของสิ่งนั้น ๆ จะทะยาน ซึ่งการที่มูลค่าของ Bitcoin จะเพิ่มจากปัจจุบันอีก 10 เท่านั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว
ย้อนไปในอดีตดูผลงานของ Bitcoin
อ้างอิงจากผู้ใช้ Reddit นาม slvbtc ได้ชี้ว่า หลังจากที่มีการ Halving ทำให้ Supply ในตลาดลดลง ราคาของ Bitcoin ก็มีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ก่อนหน้าการ Halving เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 12 ดอลลาร์ และการขุด Bitcoin ได้รางวัล 50 BTC ต่อ Block ซึ่งแปลว่า ใน 1 Block จะมีมูลค่า 600 ดอลลาร์ ทำให้ตลาดจะมี Bitcoin เพิ่มขึ้น 604,800 ดอลลาร์ทุก ๆ สัปดาห์”
“แต่การ Havling ทำให้จำนวน Supply ของ Bitcoin นั้นลดลงเหลือ 302,400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งในหลายปีต่อมาทำให้มูลค่าโดยรวมของมันเพิ่มขึ้น 14 พันล้านดอลลาร์”
แต่ในการ Halving ในเดือนกรกฎาคมปี 2016 ทั้ง Bitcoin และตลาดคริปโตต่างก็เติบโตอีกครั้ง ถ้าย้อนไปดู หลังจากนั้น 18 เดือน มูลค่าตลาด Bitcoin โดยรวมก็พุ่งไปแตะที่ 300 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
slvbtc ได้อธิบายถึงการ Halving รอบที่สองว่าทำให้ตลาดเติบโตอย่างมหาศาลเช่นกัน
“ก่อนหน้าการ Halving ในเดือนกรกฎาคม 2016 ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 650 ดอลลาร์ และมี Bitcoin ถูกปล่อยออกมา 25 BTC ต่อ Block ซึ่งแปลว่า 1 Block มีมูลค่า 16,250 ดอลลาร์ และตลาดก็ได้รับ Bitcoin มูลค่า 16,380,000 ดอลลาร์ ในทุกสัปดาห์ และการ Havling ทำให้ Supply ลดลง มี Bitcoin เพิ่มเข้ามาในตลาดสัปดาห์ละ 8,190,000 ดอลลาร์ แต่ก็ทำให้มูลค่าตลาดโดยรวมของ Bitcoin ทะยานขึ้นไปอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ใน 18 เดือนให้หลัง”
มีโอกาสที่ Bitcoin จะทะยานอย่างรุนแรงต่อ
จากข้อมูลการ Halving ทั้ง 2 ครั้งในอดีตนี้เอง ทำให้ slvbtc คาดเดาได้ระดับหนึ่งว่า ราคาของ Bitcoin ในรอบนี้อาจจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ก่อนการ Halving และหลังจากนั้นไม่นาน มูลค่าโดยรวมของ Bitcoin ควรจะไปแตะล้านล้านดอลลาร์
ถ้า Bitcoin มีราคาที่ 10,000 ดอลลาร์ก่อนการ Halving และมีรางวัลต่อ Block เป็น Bitcoin จำนวน 12.5 BTC ซึ่งใน 1 Block จะมีมูลค่า 125,000 ดอลลาร์ แปลว่าจะมี Bitcoin มูลค่า 126,000,000 ดอลลาร์ ถูกเพิ่มเข้ามาในตลาดทุก ๆ สัปดาห์
และการ Halving จะทำให้มี Bitcoin เพิ่มเข้ามาเหลือ 63,000,000 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ และเป็นเหตุทำให้มูลค่าของ Bitcoin นั้นทะยานไปแตะล้านล้านดอลลาร์ ใน 2 หรือ 3 ปีให้หลังเช่นในอดีต
ซึ่งถ้าการคาดการณ์เป็นจริง ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็น Bitcoin มีราคามากกว่าปัจจุบัน 10 เท่า นั่นก็คือราคา 80,000 ดอลลาร์ ก็เป็นได้ ซึ่งก็ไปตรงกับการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญและผู้มีชื่อเสียงหลายคนในวงการคริปโตว่า ราคาของ Bitcoin จะทะยานไปแตะหลักหมื่นหรือแสนดอลลาร์ในหลายปีนี้อย่างแน่นอน
กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลก
หาก Bitcoin เติบโตไปจนถึงระดับนั้นมันคงกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น และอาจเข้าสู่วงการการเงินระดับโลกแบบจริง ๆ จัง ๆ เทียบเท่ากับสินทรัพย์อื่นเช่นทองคำเสียที
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ว่าการ Halving รอบหน้าอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็เป็นได้ เพราะตลาดคริปโตนั้นยังเป็นตลาดที่ถือว่าใหม่มาก ๆ กำเนิดมาได้ประมาณ 10 ปีเท่านั้น การที่โครงสร้างของมันจะมีการปรับเปลี่ยนก็เป็นไปได้ทั้งสิ้นต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ 7,955 ดอลลาร์ ลดลง 1.95 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 15,635 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมที่ 143,203 ล้านดอลลาร์
ที่มา : beincrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น