เว็บเทรดคริปโตนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการคริปโตมาช้านาน และในปัจจุบันก็มีเว็บหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย เหตุผลในการที่มีเว็บใหม่ ๆ เกิดขึ้นนั้นก็คงหนีไม่พ้นการเล็งเห็นช่องทางการทำกำไรมหาศาลจากนักลงทุนคริปโตทั่วโลก แต่ก็ใช่ว่าเว็บเทรดทุกเจ้าจะอยู่รอดเสมอไป
อ้างอิงจากประกาศเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมของ Bittrex เว็บเทรดคริปโตเจ้าใหญ่สัญชาติยุโรป ได้ประกาศว่า กำลังจะปิดให้บริการใน 31 ประเทศภายในสิ้นเดือนนี้ โดยให้เหตุผลว่า ความไม่แน่นอนด้านกฎหมายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Bittrex จะเป็นประกาศถอนตัวถึง 31 ประเทศ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลต่อตลาดคริปโตเท่าไรนัก ยกเว้นแค่บางประเทศอย่าง เวเนซุเอลา หรือประเทศเล็ก ๆ อื่น ๆ
ปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
อ้างอิงจากประกาศอย่างเป็นทางการ นักเทรดที่ใช้บริการ Bittrex ในประเทศนั้น ๆ จะไม่สามารถใช้งานบัญชีของพวกเขาได้หลังจากวันที่ 29 ตุลาคมนี้ตั้งแต่เวลา 19:00 UTC/21:00 CEST เป็นต้นไป และนั่นจะเป็นวันสุดท้ายที่ผู้ใช้งานสามารถถอนเงินจากบัญชีของพวกเขาได้
ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมียอดเงินคงเหลือเท่ากับหรือมากกว่าค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการถอนเงิน ถึงจะสามารถถอนเงินจากบัญชีได้
ผู้ใช้งานในประเทศดังต่อไปนี้จะได้รับผลกระทบกับการประกาศดังกล่าว:
- อัฟกานิสถาน
- อียิปต์
- บอสเนีย – เฮอร์เซโกวีนา
- บอตสวานา
- กัมพูชา
- สาธารณรัฐอัฟริกากลาง
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
- โกตดิวัวร์
- เอธิโอเปีย
- เอริเทรีย
- กานา
- กินี
- บิสเซา
- กายอานา
- ลาว
- เลบานอน
- ลิเบีย
- มัลดีฟส์
- ปากีสถาน
- ศรีลังกา
- โซมาเลีย
- ซูดาน
- ซูดานใต้
- ตรินิแดดและโตเบโก
- ตูนิเซีย
- ยูกันดา
- วานูอาตู
- เวเนซุเอลา
- เยเมน
- ซิมบับเว
ก่อนที่จะทำการถอนเงิน ผู้ใช้งานจำเป็นต้องกรอก Address ในการที่จะรับเงินก่อน ซึ่ง Bittrex ก็ได้เขียนวิธีเป็นลำดับขั้นตอน How-to ไว้เรียบร้อยแล้ว
ลดขนาดการให้บริการ
ก่อนหน้าที่จะมีการปิดให้บริการในหลาย ๆ ประเทศนี้ ในปีที่ผ่านมา Bittrex ก็ประกาศ Delist หรือนำเหรียญออกจากเว็บเทรดของพวกเขาอยู่เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ Delist ไปถึง 42 เหรียญเลยทีเดียว เรียกได้ว่าส่งสัญญาณไม่ดีมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว
สาเหตุที่มีการลดขนาดการให้บริการอย่างต่อเนื่องอาจจะมาจากการที่ผู้ใช้งานลดลง เพราะหนีไปใช้เว็บเทรดอื่น ๆ อย่าง Binance ที่มีทั้งกิจกรรมและปริมาณการเทรดที่มากกว่าแทนนั่นเอง
อีกจุดที่น่าสนใจคือ การที่เว็บ Bittrex ลดขนาดธุรกิจในครั้งนี้อาจจะเกิดมาจากขาลงที่ยาวนานเมื่อปี 2018 ก็เป็นได้ และเมื่อขาขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในปี 2019 ก็อาจจะไม่พอชดเชยความเสียหายได้ ซึ่งพวกเขาก็อาจจะไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะไหวไหมเลยตัดสินใจปิดตัวในหลาย ๆ ประเทศนั่นเอง
ที่มา : beincrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น