<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทและธนาคารยักษ์ใหญ่ในจีนเริ่มลงทะเบียนพัฒนาโปรเจ็ค Blockchain กว่า 500 โปรเจ็คแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สรุปย่อ

  • โปรเจ็ค Blockchain กว่า 500 โปรเจ็คลงทะเบียนกับรัฐบาลจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม
  • จากการยื่นจดทะเบียนดังกล่าวนั้นมีธนาคารยักษ์ใหญ่ในจีนและบริษัทเทคโนโลยีร่วมยื่นอยู่ด้วย
  • หน่วยงานของรัฐรวมถึงศาลและกรมสรรพากรกำลังทดลองแพลตฟอร์ม Blockchain เพื่อนำมาใช้ดูแลงานแอดมินต่าง ๆ
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประกาศสนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain สภาผ่านร่างกฎหมายด้านคริปโตหลังจากมีประกาศออกมา

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงสนับสนุนให้ประเทศพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ทำให้บริษัทต่าง ๆ ผุดโปรเจ็ค Blockchain ออกมาเพิ่มมากขึ้นภายในประเทศ

โดยรวมแล้วมีโปรเจ็คด้าน Blockchain กว่า 506 โปรเจ็ค อ้างอิงจากหน่วยงาน Cyberspace Administration ของประเทศจีน ทุกคนที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain จะต้องมาลงทะเบียนโปรเจ็คกับหน่วยงานเพื่อให้ทางหน่วยงานได้ทำการตรวจสอบ

จากข้อมูลเผยว่ามี 197 โปรเจ็คเข้ามาลงทะเบียนแล้วในเดือนมีนาคม และอีก 309 โปรเจ็คที่เข้ามาลงทะเบียนในช่วงเดือนตุลาคม มีโปรเจ็ค Blockchain หลายร้อยโปรเจ็คเลยทีเดียวที่กำลังพัฒนาอยู่ในประเทศจีน

อาจจะมีลิสต์โปรเจ็คเพิ่มขึ้นมาอีกในอนาคตซึ่งลิสต์ที่ได้ลงทะเบียนไปบ้างแล้วก็มีธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ในจีน บริษัทเทคโนโลยีรวมถึงโปรเจ็คของภาคเอกชนและภาครัฐด้วย

การพัฒนาโปรเจ็คสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะมีการลงทะเบียนชื่อโปรเจ็คในชื่อของบริษัทสาขา แต่ก็มีลิสต์บางอันที่หล่นหายไปคาดว่าจะมายื่นลงทะเบียนใหม่ภายหลัง

ทาง CoinDesk จึงได้รวบรวมโปรเจ็ค Blockchain ที่น่าสนใจและอาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศจีนได้ดังนี้

บริการทางการเงิน

โดยรวมแล้วการลงทะเบียนโปรเจ็คด้าน Blockchain ส่วนใหญ่นั้นจะนำ Blockchain มาใช้กับ 4 เรื่องด้วยกันซึ่งก็คือการเงินและการค้า, การจัดการสินทรัพย์, การชำระเงินข้ามประเทศและ Supply Chain

มีธนาคาร 6 แห่งประกอบไปด้วยธนาคารของประเทศ 2 แห่งและธนาคารส่วนท้องถิ่น 4 แห่งที่ได้ยื่นลงทะเบียนโปรเจ็ค Blockchain รวมแล้วกว่า 14 โปรเจ็คด้วยกัน

ธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) และธนาคาร Ping An Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่อยู่ในเครือของ Ping An Insurance ได้ลงทะเบียนโปรเจ็คไป 2 โปรเจ็ค

ทาง Ping An Bank ก็ได้เปิดเผยข้อมูลวิเคราะห์แพลตฟอร์ม SAS และระบบการโหวตที่ใช้ Blockchain ซึ่งทางธนาคารได้กลายเป็นสถาบันการเงินจีนแห่งแรกใน R3 enterprise blockchain alliance ในปี 2016 ซึ่งได้นำเครือข่าย Blockchain ที่เรียกว่า FiMax เพื่อนำมาใช้พัฒนาการแชร์ข้อมูลและกระบวนการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงและนำมาใช้พัฒนา Supply Chain ด้านการเงิน

ส่วน Union Pay คู่แข่งของ Visa และ Mastercard ก็ได้ยื่นลงทะเบียนโปรเจ็ค Blockchain อีกสองโปรเจ็ค โดยโปรเจ็ค Blockchain ดังกล่าวก็คือแอปพลิเคชั่นดิจิทัลและแพลตฟอร์มด้าน Blockchain ที่จะนำมาใช้กับการโอนเงินข้ามประเทศ

ICBC Xi Blockchain Service และ ICBC Fi­nan­cial Ser­vices เป็นโปรเจ็ค Blockchain เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าของธนาคาร ซึ่งทาง ICBC ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารกลางของประเทศจีน People’s Bank of China ในปี 2017 เพื่อทำวิจัยด้านเทคโนโลยี Blockchain และเปิดตัวแพลตฟอร์มการเงินที่ใช้ Blockchain สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม ทางธนาคารทั้งสองแห่งก็ได้ออกมาเผยแพร่รายละเอียดโปรเจ็ค Blockchain ของตนด้วยเช่นกัน

อีกธนาคารแห่งหนึ่ง China Construction Bank (CCB) เป็นธนาคารพาณิชย์เจ้าใหญ่ติดอันดับท็อป 4 ในจีนก็ได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มการเงินและการค้าซึ่งก็มีวอลลุ่มเทรดบนแพลตฟอร์มทะลุ 53 พันล้านดอลลาร์แล้ว โปรเจ็คของ CCB จะเข้ามาอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม เช่น สินเชื่อระยะสั้น (Factoring) และการรับซื้อลูกหนี้จากผู้ส่งออก (Forfaiting)

เมื่อปีที่แล้วธนาคารแห่งประเทศจีนได้ทดลองโอนเงินข้ามประเทศไปยังเกาหลีใต้ด้วยเงินดอลลาร์ผ่านทางระบบชำระเงิน Blockchain ซึ่งก็สำเร็จไปได้ด้วยดี

Baidu, Alibaba และ Tencent

เสิร์ชเอ็นจิ้นของจีนอย่าง Baidu ก็ได้เผย White Paper ด้าน Blockchain ออกมาด้วย โดยมีรายละเอียดระบุถึง Xuper Chain ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วซึ่งจะนำมาให้บริการด้าน Blockchain

ทางบริษัทได้เปิดตัว dApp และเกมที่เรียกว่า Letsdog ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมคล้าย ๆ กับเกม CryptoKitties ซึ่งโปรเจ็คนั้นก็ได้ลงทะเบียนในนามของ Duxiaoman

ส่วนโปรเจ็คอื่น ๆ ของ Baidu ก็มี Baidu Blockchain Engine ซึ่งให้บริการคลาวน์ด้วยและโทเค็นที่นำ Blockchain มาใช้ปกป้องข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา

ส่วน Alibaba Group, Tencent และ Huawei ก็จะพัฒนา Blockchain Cloud Service ในจีนด้วย

แต่ละบริษัทก็ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ Blockchain Cloud Service ของตนและข้อมูลการลงทะเบียนด้วย ซึ่งก็เป็นการเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของผู้ให้บริการ Blockchain Cloud Service สำหรับบุคคลที่สาม

ส่วนบริษัท Tencent ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ WeChat ก็ได้เริ่มสร้างบริการด้าน Blockchain ได้เปิดตัว White Paper ออกมาครั้งแรกในปี 2017 ซึ่งทางบริษัทก็ได้จดทะเบียนในชื่อของ Tencent Blockchain และ Tencent Cloud TBaaS Blockchain

แพลตฟอร์มของบริษัทคือ TrustSQL ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบที่แยกออกเป็นสามส่วนและมีเชนที่เป็นเลเยอร์หลักหนึ่งอัน ส่วนอีกสองอันก็จะเป็นเลเยอร์ของผลิตภัณฑ์และการให้บริการ และเลเยอร์แอปพลิเคชั่นที่เอาไว้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัล

ทางบริษัทได้เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Intel เพื่อร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับ Internet of Things ด้วยและได้เริ่มทดสอบแอปพลิเคชั่นด้านการเงินที่ใช้ Blockchain กับธนาคารของจีนในปี 2017

โปรเจ็คที่เกิดขึ้นจากการผลักดันของรัฐบาล

รัฐบาลจีนก็มีส่วนร่วมในโปรเจ็คหลาย ๆ โปรเจ็คที่ได้ลงทะเยียนเข้ามา ตั้งแต่การสื่อสารจนกระทั่งนวัตกรรมการพัฒนาที่ดินและกฎหมาย

ทาง Union Pay ก็ได้ยื่นลงทะเบียนพัฒนาโปรเจ็คการโอนเงินข้ามประเทศเช่นกัน เดือนนี้สื่อของสำนักข่าวจีนได้ทดลองโปรเจ็คของ Union Pay ซึ่งได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับสถาบันต่าง ๆ รวมถึง China Mobile และ State Information Center เพื่อเปิดตัว Blockchain Service Network (BSN) เป็นโปรเจ็ค ​Blockchain ที่สร้างขึ้นสำหรับ Android หรือ IOS

บริษัท Beijing Red Date Tech เป็นสถาบันยักษ์ใหญ่ใน 6 แห่งที่ยื่นลงทะเบียนโปรเจ็ค Blockchain ซึ่งทางซีอีโอนาย Yifan He ก็ได้ออกมาประกาศด้วยว่าทางบริษัท BSN กำลังทดสอบเครือข่ายในเมืองทั้งหมด 55 แห่งในจีนรวมถึงสิงคโปร์ด้วย

ซึ่งก็พบว่าเมื่อทดสอบใช้งาน Blockchain ขึ้นมามันช่วยลดต้นทุนมากกว่า Cloud Services ของ Tencent, Huawei และ Alibaba

แต่มันก็มีโปรเจ็คทดลองหลายอันที่รัฐบาลเลือกใช้ Blockchain เพื่อมาให้บริการ ตั้งแต่การอนุญาโตตุลการรวมถึงการเก็บภาษี การจัดการแพลตฟอร์มค่าชดเชยสำหรับชาวนาย้ายถิ่น

ที่ปักกิ่งและกวางโจวนั้นมีแพลตฟอร์ม Blockchain ลงทะเบียนไว้กับ Internet Court มากที่สุด ซึ่งเป็น Internet Court แรกของจีนและของโลกที่เปิดในเมืองหางโจว ทางตอนใต้ของประเทศจีนเมื่อในปี 2017

ศาลเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตของจีนนั้นได้ตัดสินคดีเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตไปบ้างแล้ว เช่น การเงินออนไลน์, ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญาออนไลน์รวมถึงข้อพิพาทสัญญากู้ยืม ซึ่งศาลได้ดำเนินการออนไลน์ รวมถึงการฟ้องร้อง, คำชี้ขาด, แสดงพยานหลักฐานและคำตัดสิน

legalXchainก็เป็นบริการด้าน Blockchain ที่ใช้ legalXchain, LegalFabric และ Hyperledger ซึ่งทางบริษัทได้ออกมากล่าวว่าได้ออกแบบโปรเจ็คขึ้นมาเฉพาะสำหรับแผนกกฎหมายในจีนเลยทีเดียว อ้างอิงจากเว็บไซต์ของสื่อ

ส่วนโปรเจ็คอื่น ๆ ก็เช่น New City ที่สร้างออกมาไกลจากเมืองปักกิ่งออกมา ที่นำ Blockchain มาใช้สำหรับการทำธุรกรรมให้มีความโปร่งใส ซึ่งเรียกว่าแพลตฟอร์ม Blockchain Land Compensation Distribution Platform

โปรเจ็คอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็คอื่น ๆ จากบริษัทสตรีมมิ่งวีดีโอด้วย เช่น iQIYI ที่จะนำ Baidu Xuper Chain Supernode มาพัฒนาบริการสตีมมิ่ง และโปรเจ็คของ BGI เป็นบริษัททดลองด้านชีววิทยาซึ่งก็ได้ลงทะเบียนโปรเจ็ค BGI Blockchain BaaS Platform เพื่อทำการวิเคราะห์ด้านยีนส์

เห็นได้ว่าตอนนี้เทคโนโลยี Blockchain นั้นเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว จากที่ประเทศจีนได้ประกาศยอมรับเทคโนโลยี บริษัทต่าง ๆ ในจีนเริ่มทำโปรเจ็คด้าน Blockchain มากขึ้นเรื่อย ๆ และนี่ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ Blockchain ถูกนำไปใช้ในวงกว้างและในหลากหลายอุตสาหกรรมมากกว่าเดิม

ที่มา : coindesk

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น