ในวันนี้ Bitcoin’s whitepaper ที่เขียนโดยผู้ที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto มีอายุครบ 11 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่มันได้มีการเผยแพร่เป็นครั้งแรกโดยการอธิบายเกี่ยวกับระบบบัญชีแยกประเภท (decentralized ledger) และระบบการเงินที่เขาเรียกว่า “ Bitcoin” นอกจากนี้มันยังเป็นวันเดียวกับที่บล็อกเชนได้ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญอีกด้วย
โดยนาย Yassine Elmandjra นักวิเคราะห์สินทรัพย์คริปโตที่ตลาดการวิจัย / กองทุน ของบริษัทการลงทุน ARK ได้ชี้ให้เห็นว่าเครือข่าย Bitcoin ตอนนี้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมรวมทั้งหมดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว โดยจุดที่น่าสังเกตก็คือระบบทั้งหมดมีการแจกจ่ายเงินค่าธรรมเนียมนี้ไปยังกลุ่มนักขุดทั่วโลกที่มีส่วนร่วมในการรักษาระบบบล็อคเชนนี้เอาไว้
It's official. The Bitcoin network has surpassed 1 billion USD in cumulative fee revenue. pic.twitter.com/lKzstEX3eI
— Yassine Elmandjra (@yassineARK) October 30, 2019
Bitcoin ยังไม่พร้อมสำหรับการชำระเงินของผู้บริโภค
ในขณะที่มีการใช้งาน Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่พร้อมที่จะใช้สำหรับการชำระเงินในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอยู่ดี
นาย Jack Dorsey ซึ่งเป็นซีอีโอของทั้ง Twitter และ Square เผยให้เห็นว่า Bitcoin ยังไม่พร้อมสำหรับการยอมรับของผู้คน เขากล่าวว่ามันไม่ได้ “ทำงานเป็นเหมือนสกุลเงิน” ซึ่งเขาได้อ้างอิงถึงเรื่องความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมของเลเยอร์พื้นฐานที่สามารถประมวลผลได้เร็วถึง 7 รายการต่อวินาที ซึ่งนั่นจะเปรียบเทียบได้กับการชำระเงินผ่าน PayPal, Visa และอื่น ๆ โดยนาย Dorsey กล่าวว่า :
“พฤติกรรมราคาของมันเป็นเหมือนสินทรัพย์การลงทุนและเทียบเท่าได้กับทองคำ สิ่งที่เราต้องทำคือทำให้มันใช้งานได้มากขึ้นและสามารถเข้าถึงได้ในฐานะสกุลเงิน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่มี”
อย่างไรตามการแก้ปัญหาของ Bitcoin อาจขึ้นอยู่กับ Bakkt ซึ่งคาดว่าพวกเขาจะเปิดตัวแอปพลิเคชันการชำระเงินของผู้บริโภคที่จะทำงานร่วมกับ Starbucks โดยมันยังคงไม่ชัดเจนว่า Bitcoin ที่จะถูกนำมาใช้กับสมการนี้ได้อย่างไร แต่สันนิษฐานได้ว่าบริษัทน่าจะเป็นจุดดึงดูดความสนใจหลักให้กับคริปโตเคอเรนซี่และนั่นอาจทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้สกุลเงินคริปโตในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของพวกเขาก็เป็นได้
ที่มา : en.ethereumworldnews.com
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น