<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้งเหรียญ ATM Coin ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฉ้อโกง ต้องชดใช้เงินกว่า 128 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจากการประกาศของคณะกรรมการซึ่งกำกับดูแลตลาดอนุพันธ์ของประเทศสหรัฐอเมริการหรือ  Commodity Futures Trading Commission (CFTC)) ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ ศาลประจำเขตตะวันตกของเมืองนิวยอร์กได้มีคำสั่งลงโทษปรับแก่นาย Blake Harrison Kantor และนาย Nathan Mullins รวมทั้งบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง Blue Bit Banc, Blue Bit Analytics, Mercury Cove และ G. Thomas Client Services รวมทั้งหมดเป็นเงินกว่า 128 ล้านบาท ในฐานความผิดของการฉ้อโกงโดยการใช้กลลวงผ่านโครงการด้านคริปโตและการนำเงินลงทุนของลูกค้าไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์

ทั้งนี้คำสั่งศาลดังกล่าวนั้นยังรวมถึงกรณีของคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย คิดเป็นมูลค่ากว่า 75 ล้านบาทสำหรับนาย Blake Harrison Kantor และเหล่าบริษัทที่ได้กล่าวไปข้างต้น และคิดเป็นมูลค่ากว่า 9 ล้านบาทสำหรับนาย Nathan Mullins นอกจากนี้แล้วทั้งนาย Kantor และนาย Mullins ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายฐานยักยอกเงินไปโดยไม่ชอบอีกคนละ 15 ล้านบาท และ 2 ล้านบาทโดยประมาณ

ทั้งสองคนนั้นถูกฟ้องคดีโดยคณะกรรมการ CFTC ครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายนของปี 2018 สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงเงินในตลาดเก็งกำไร (Binary Option) สำหรับการดำเนินการออกสินค้าทางด้านการลงทุนซึ่งให้ผลกำไรตอบแทนตายตัวหรือไม่ให้ผลกำไรเลย รวมไปถึงการออกแจกจ่ายเหรียญคริปโตอย่างเหรียญ “ATM” โดยทั้งสองได้ดำเนินการใช้โปรแกรมซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นในการปรับเปลี่ยนผลของการเปลี่ยนแปลงในตลาด Binary Option เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัท Blue Bit Banc นั่นเอง 

นอกจากนี้แล้วเงินลงทุนที่ได้รับมานั้น ทั้งสองยังได้ทำการแปลงไปเป็นสกุลเงินคริปโตซึ่งไม่ได้มีมูลค่าในตลาด แต่กลับประกาศต่อเหล่านักลงทุนว่าเหรียญเหล่านี้นั้นเป็นเหรียญที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินลงทุนที่ได้ลงไปนั่นเอง อีกทั้งยังได้มีการโฆษณาชวนเชื่อต่อไปให้เหล่าลูกค้าของพวกเขาทำการสร้างบัญชีและฝากเงินไว้ในประเทศหมู่เกาะอย่าง St. Kitts และ Nevis เพื่อทำให้การติดตามรายการเดินบัญชีนั้นยากขึ้นอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดดังกล่าวนั้นจะได้รับคำสั่งให้ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ลงทุนทั้งหมด แต่ทางคณะกรรมการก็เล็งเห็นได้ว่าพวกเขานั้นอาจมีสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ตามคำสั่งศาล

ที่มา : coindesk

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น