<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้บุกเบิก Bitcoin บริจาค 50 BTC ให้โครงการเหรียญ Grin ลือว่าอาจเป็น Satoshi

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญ Grin ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินคริปโตที่มีลักษณะเด่นของการรักษาความเป็นส่วนตัวและมีเป้าหมายในการสนับสนุนผู้ซึ่งต้องการดำเนินธุรกรรมและทำการเก็บออมโดยปราศจากการแทรกแซงหรือการควบคุมจากบุคคลภายนอก  โดยไม่นานมานี้นาย Daniel Lehnberg หนึ่งในนักพัฒนาของเหรียญดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยถึงการที่กองทุนสำหรับโครงการได้รับการบริจาคสนับสนุนเป็น Bitcoin จำนวนกว่า 50 เหรียญ ซึ่งได้โอนมาจากบัญชีซึ่งได้สร้างไว้ตั้งแต่มีการเริ่มขุด Bitcoin ขึ้น 

โดยเมื่อทำการสืบค้นข้อมูลบน Blockchain แล้วปรากฎว่าบัญชีดังกล่าวนั้นได้ขุดเหรียญ BTC จำนวนกว่า 50 เหรียญนี้ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2010 ซึ่งในขณะนั้นผู้ประมวลผลแต่ละบล็อคต่างได้รับรางวัลเป็นเหรียญในจำนวนดังกล่าวอีกทั้งมูลค่าของแต่ละเหรียญก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ทั้งนี้ธุรกรรมบนบัญชีดังกล่าวนั้นมีเพียงรางวัลซึ่งได้รับจาก Coinbase ในช่วงปี 2010 และการบริจาคแก่โครงการดังกล่าวเท่านั้น 

นาย Charlie Lee ผู้ก่อตั้ง Litecoin ได้ออกมากล่าวผ่านทางบัญชี Telegraph ของเค้าว่าการบริจาคดังกล่าวนั้นน่าจะมาจากผู้สร้าง Bitcoin อย่าง Satoshi Nakamoto ก็เป็นได้ โดยตัวเค้านั้นตั้งใจกล่าวในฐานะที่เป็นมุกตลกล้อกับเหตุการณ์ดังกล่าวเท่านั้น แต่ทั้งนี้วงการคริปโตต่างก็ตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ดังกล่าว

ทั้งนี้นาย Lehnberg ได้เปิดเผยว่าต้นได้ทำการติดต่อไปยังผู้บริจาคซึ่งยังคงสถานะไม่ระบุตัวตัวอยู่ โดยผู้บริจาคได้กล่าวว่าตัวเค้านั้นจะไม่ตัดสินถึงทิศทางการดำเนินการของกองทุนรวมทั้งวิธีการดำเนินการซึ่งจะนำเงินที่ได้รับบริจาคไปใช้ โดยในขณะนี้กองทุน Grin นั้นมีมูลค่ารวมกว่า 429,240 ดอลลาร์ นอกจากนี้ผู้บริจาคยังได้กล่าวถึงความมั่นใจของเค้าว่าโครงการดังกล่าวนั้นจะไปได้ดีและให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปสู่ช่วงปี 2009 และ 2010 อีกครั้งนั่นเอง โดยได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า

“มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากที่พวกเราให้การสนับสนุนโครงการ Grin ความตั้งใจของเรานั้นไม่ได้มีเจตนาทางธุรกิจแอบแฝงแต่อย่างใด โดยเราให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและชุดคำสั่งในโครงการดังกล่าวมากกว่านั่นเอง ดังนั้นแล้วโปรดใช้เงินดังกล่าวไปในการพัฒนาโครงการ Grin…พวกเราเห็นถึงผลงานรวมทั้งหลักการเบื้องหลังการทำงานของพวกคุณโดยไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และการบริจากนี้เองที่เป็นเสมือนการสรรเสริญการดำเนินการดังกล่าวของพวกคุณเพื่อให้พวกคุณสามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้อย่างอิสระโดยปราศความกังวลจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจนั่นเอง”

นอกจากนี้แล้วทางผู้บริจาคยังได้กล่าวปิดท้ายไว้ว่าพวกเขาหวังว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งการพิสูจน์นั้นอาศัยเพียงระยะเวลาอย่างเดียวเท่านั้น 

นอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือในช่วงของการที่เหรียญจำนวนดังกล่าวได้ถูกขุดขึ้น ข้อมูลบนระบบ Blockchain แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณบัญชีในเครือข่าย Bitcoin ที่ได้เพิ่มขึ้นจาก 500 ไปสู่ 600 บัญชีอย่างรวดเร็วอีกด้ว

และแม้ว่าผู้ใช้รายหนึ่งจะสามารถที่จะสร้างบัญชี Bitcoin หลายๆ บัญชีได้ แต่การที่ผู้บริจาคได้กล่าวถึงความหลังในช่วงปี 2009 และ 2010 นั้นอาจเป็นการแสดงว่าตัวผู้บริจาคนั้นได้เข้าสู่วงการ Bitcoin ในช่วงเดียวกันกับที่ตัวเหรียญนั้นถูกสร้างขึ้นมานั่นเอง 

ดังนั้นแล้วความเป็นไปได้ที่จำนวนบัญชีที่เพิ่มขึ้นกว่า 100 บัญชีในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นอาจหมายถึงจำนวนความเป็นไปได้ที่หนึ่งในนั้นจะเป็นบัญชีของผู้สร้างเหรียญดังกล่าวอย่าง Satoshi Nakamoto ก็เป็นไปได้

ที่มา: Cryptoglobe 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น