ตั้งแต่ในช่วงที่โครงการของเหรีญ Libra ได้เริ่มเปิดตัวในช่วงวันที่ 18 มิถุนายนปี 2019 นั้นได้มีเสียงตอบรับที่ไม่ดีนักจากภาครัฐบาลโดยโดยหนึ่งในการตอบรับมาจากผู้บริหารของกองทุนสำรองประจำสหรัฐฯโดยได้มีการสั่งให้ทางโครงการนั้นหยุดการดำเนินการ อีกทั้งเลขาธิการของกระทรวงการคลังประจำสหรัฐฯนั้นยังได้ล่าวว่าโครงการดังกล่าวนั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้แล้วโครงการ Libra ยังคงถูกประกาศห้ามในประเทศในสหภาพยุโรปกว่าสองประเทศ ทั้งยังถูกประนามโดยประธานาธิบดีประจำสหรัฐฯอีกด้วย แต่ทางฝั่งผู้ดำเนินโครงการก็ยังคงมีความมั่นใจอยู่นั่นเอง
พวกเขาได้ประกาศถึงความคืบหน้าของโครงการผ่านทางบล๊อกอย่างเป็นทางการของพวกเขาว่าเป็นไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากทั้งเหล่าธนาคารกลางทั้งหลายรวมไปถึงผู้ร่างกฎหมายทั่วโลกก็ตาม โดยได้ตั้งหัวข้อรายงานว่า “การดำเนินการยังคงเป็นไปได้ด้วยดีหลังจากผ่านไปห้าเดือน” ซึ่งเขียนโดยนาย Michael Engle ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาระบบ ซึ่งรายงานดังกล่าวมีเป้าหมายในการแจกแจงความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในโครงการนั่นเอง
รายงานดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาภายในระบบของ Libra โดยกลุ่มผู้มีส่วนร่วมในเครือข่ายหลักของ libra นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามความสามารถและศักยภาพของเครือข่าย ซึ่งตั้งแต่ในช่วงที่โครงการดังกล่าวได้เริ่มการทดสอบเครือข่ายในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรายการธุรกรรมที่เกิดขึ้นแล้วกว่า 50,000 รายการ
นอกจากนี้แล้วในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทางโครงการยังได้มีการดำเนินการเปิดให้เหล่านักพัฒนาเข้าร่วมกันค้นหาจุดบอดภายในระบบโดยมีเงินรางวัลแก่ผู้ทำสำเร็จสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนชื่นชมจากสมาชิกทั้งภายในและภายนอกในฐานะที่เป็นก้าวสำคัญทางด้านเทคนิคและด้านการเมืองในการพัฒนาขนาดและระดับของการดำเนินการของพวกเขา
โดยตั้งแต่ในช่วงที่มีการเริ่มทดสอบเครือข่ายของ Libra นั้น เหล่านักพัฒนาภายในระบบก็ได้มีการประกาศถึงความคืบหน้าของโครงการย่อยต่างๆกว่า 34 โครงการ โดยรวมถึง Wallet 10 รายการ, ระบบการสืบค้นภายในระบบ Blockchain กว่า 11 รายการ, ระบบสิ่งแวดล้อมจำลองสำหรับการพัฒนาเครือข่ายกว่า 2 รายการ (integrated development environments [IDEx]), อินเทอร์เฟสสำหรับการโปรแกรมแอพลิเคชันต่างๆ (application programming interface [API]) 1 รายการ รวมทั้งกลุ่มลูกค้ากว่า 11 รายอีกด้วย
ความพ่ายแพ้
ในขณะที่การดำเนินการภายในยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงการประกาศใช้งานจริงในเร็วๆนี้แต่อย่างใด ซึ่ง ความคืบหน้าล่าสุดระหว่างโครงการดังกล่าวและเหล่าผู้ร่างกฎหมายต่างๆนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่นาย Mark Zuckerberg ผู้บริหารของบริษัท Facebook และผู้เป็นหัวหอกของโครงการได้เดินทางไปที่ Washington D.C เพื่อให้การแก่เหล่าคณะกรรมกำกับดูแลการบริการทางการเงิน
ในการให้การดังกล่าวนั้น เป็นที่ชัดเจนว่าเหล่าผู้ร่ากฎหมายภายในประเทศสหรัฐฯนั้นไม่สบายใจต่อการดำเนินการของสกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีศักยภาพที่จะกระทบต่อความเข้มแข็งของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ เนื่องจากกองทุนสำรองภายในระบบเครือข่ายของโครงการที่มีความยืดหยุ่นมาก นอกจากนี้แล้วเหล่าผู้ร่างกฎหมายภายนอกประเทศสหรัฐฯนั้นยังมีที่ท่าที่แข็งกร้าวมากกว่าอีกด้วย โดยประเทศฝรั่งเศษและประเทศเยอรมันนียังคงมีการประกาศห้ามการดำเนินการ Libra อยู่เนื่องจากความเป็นไปได้ของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อแนวนโยบายทางการเงินภายในของประเทศนั่นเอง
ดังนั้นแล้วยังคงเป็นที่สงสัยถึงช่วงเวลาที่โครงการดังกล่าวนั้นจะประกาศเปิดตัวใช้งานจริงอย่างเป็นทางการเนื่องจากข้อขัดข้องทางด้านกฎหมายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ซึ่งแผนการที่ได้วางไว้แต่แรกว่าจะมีการใช้งานจริงภายในช่วงต้นปี 2020 ได้ถูกเลื่อนออกไปในช่วงสิ้นปีดังกล่าวซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่เร็วไปด้วยซ้ำหากพิจารณาอุปสรรคต่างๆที่โครงการต้องเผชิญในขณะนี้
ที่มา: ambcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น