<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมความสนใจต่อ Bitcoin ในจีนถึงหายไปอย่างรวดเร็ว หลังรัฐบาลประกาศสนับสนุน Blockchain แค่ 1 เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตั้งแต่ในช่วงที่ประธานาธิบดีของประเทศจีนอย่างนาย Xi Jinping ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนต่อเทคโนโลยี Blockchain ในช่วงวันที่ 28 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระแสความนิยมต่อ Bitcoin ก็ได้เริ่มลดลงนับแต่นั้นมา

อีกทั้ง Bitcoin ซึ่งมูลค่าลดลงจากระดับที่ 10,600 ดอลลาร์ลงมาสู่ 8,500 ดอลลาร์รวมทั้งเหรียญอื่นๆซึ่งมีทีมนักพัฒนาชาวจีนอยู่เบื้องหลังอย่าง NEO, Ontology และ Tron ยังได้มีมูลค่าลดลงเล็กน้อยตลอดช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย อย่างไรก็ตามเราก็อาจยังไม่สามารถด่วนสรุปได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากกระแสความนิยมของตลาด

เหตุผลที่ทำไมกระแสความนิยมของ Bitcoin และสกุลเงินคริปโตอื่นๆนั้นยังไม่เพิ่มขึ้นเสียที

ความคาดหวังต่อแรงขับเคลื่อนในตลาดสกุลเงินคริปโตนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากได้มีการเปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลจีนในการผลักดันให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ของตัวเอง ซึ่งก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของราคาในชั่วข้ามคืนไปแตะจุดที่เรียกได้ว่าเป็น “ระดับที่มีความท้าทายทางจิตวิทยา” ที่ราคา 10,000 ดอลลาร์ แต่ก็ได้ร่วงกลับลงมาในระดับก่อนหน้าในระยะเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก 

นอกจากนี้แล้วนาย Alex Krüger ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ตลาดระดับโลกยังได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า

“ความต้องการต่อ Bitcoin ของนักลงในชสวจีนนั้นได้เพิ่มขึ้นจริงหรือ? เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าปริมาณการซื้อขายในตลาดและอัตราการสืบค้นถึงเหรียญดังกล่าวนั้นได้กลับตัวลงไปสู่ระดับเดียวกันกับช่วงก่อนการแสดงการสนับสนุนของรัฐบาลอย่างรวดเร็ว อีกทั้งระดับการดำเนินการบนเหล่าเว็บ Exchange ต่างๆนั้นก็แทบที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยด้วยซ้ำตั้งแต่มีข่าวดังกล่าวออกมา

เหรียญที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหรียญของประเทศจีนอย่าง NEO, ONT และ TRX นั้นยังคงไปได้ดีแม้พ้นช่วงการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ข่าวดังกล่าวได้ออกมาแล้วในขณะที่เหรียญซึ่งมีการดำเนินการเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานโดยใช้เทคโนโลยี  Blockchain เข้ามาช่วยอย่าง VET โลดแล่นอยู่บนหน้าสื่อหนังสือพิมพ์ของจีน ตัวผมนั้นไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณถึงกระแสความนิยมที่จะส่งผลต่อตลาดแต่อย่างใด”

นักวิเคราะห์คนดังกล่าวยังได้เน้นย้ำว่าความนิยมต่อสกุลเงินคริปโตในภูมิภาคดังกล่าวนั้นมีมากอยู่ก่อนที่ประธานาธิบดีของประเทศจีนจะออกมากล่าวถึงเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain แล้วเสียด้วยซ้ำ

นอกจากนี้แล้วประชาชนชาวจีนยังได้มีการลงทุนในสกุลเงินคริปโตต่างๆผ่านตลาดต่างประเทศเช่นในเมืองฮ่องกง โดยการซื้อเหรียญ Stablecoin อย่าง Tether ด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง

ดังนั้นแล้วเราจึงอาจที่จะคาดเดาได้ว่าทางรัฐบาลจีนอาจมีการประกาศถึงแผนการผลักดันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีั Blockchain ร่วมกับทางธนาคารกลางของประเทศจีนอย่าง People’s Bank of China (PBoC)  ซึ่งกำลังดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

นาย Dave Chapman ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท BC Technology Group ได้แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า

“กรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ หลังจากที่ทาง Libra ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงโครงการของตน ทางรัฐบาล ผู้ร่างกฎหมายและธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกก็ได้เร่งผลักดันแผนการดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน”

ท้ายที่สุดนี้แล้วนักวิเคราะห์ทางเทคนิคบางรายได้แสดงความเห็นว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นจากการแสดงความสนับสนุนของรัฐบาลอีกต่อการพัฒนาเทคโนโลยี  Blockchain เป็นหลัก แต่กรณีดังกล่าวนั้นมีที่มาจากการขาดสภาพคล่องในช่วงของการเพิ่มขึ้นของแรงขายนั่นเองที่เป็นที่มาของการเพิ่มขึ้นของราคาดังกล่าว

ที่มา : u.today

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น