ดูเหมือนว่าในขณะนี้ชุมชนคริปโตกำลังคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าหลังเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในปี 2020 ราคา BTC อาจจะร่วงลดลง
ซึ่งนักวิเคราะห์ PlanB (@ 100trillionUSD) ได้กล่าวในมุมมองของเขาว่าการมาของ Bitcoin Halving นั่นอาจจะไม่ใช่ช่วงขาลงอย่างที่หลายคนเชื่อ
Bitcoin จำนวนกว่า 6.8 ล้านเหรียญถูกเปลี่ยนมือในปีนี้
นาย Mati Greenspan หัวหน้านักวิเคราะห์ของแพลตฟอร์มการลงทุน eToro ได้ชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่าจาก 19 ล้านเหรียญ Bitcoin ที่สามารถขุดขึ้นมาได้ ตอนนี้เป็นเจ้าของแล้วกว่า 11.5 ล้าน BTC และมีเพียง 6.8 ล้านคนเท่านั้นในปีนี้ที่ได้ทำการซื้อขายคริปโตในกระดานเทรด ซึ่งเขาได้กล่าวว่า :
“มันเป็นความขาดแคลนที่ได้สร้างมูลค่า”
Meaning… less than 6.8 million BTC have changed hands in the last 12 months.
Remember, it's the scarcity that creates value. https://t.co/NVsJ5zIzf8
— Mati Greenspan [not trading advice] (@MatiGreenspan) December 2, 2019
การซื้อพิซซ่าไปจนถึงมูลค่าของอพาร์ตเมนต์
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้ใช้ทวีตเตอร์นามว่า @CryptoWelson ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับ Bitcoin ที่มีมาตั้งแต่ปี 2009 มาเล่าใหม่ ซึ่งเขาได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผู้ใช้ Bitcoin คนหนึ่งนำ Bitcoin จำนวน 10,000 BTC ไปแลกกับพิซซ่าจำนวน 2 ถาด แต่ทว่าตอนนี้หากคุณมี 100 BTC คุณก็สามารถซื้ออพาร์ทเมนต์ดี ๆ ได้แล้ว
10 years ago 10,000 #Bitcoin bought you a Pizza.
Today 100 #Bitcoin will buy you a very nice apartment.
What will 1 #BTC buy you in 10 years?
— Welson ? (@CryptoWelson) December 1, 2019
Bitcoin จะหายากเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
นักวิเคราะห์ PlanB ได้กล่าวเตือนชุมชนว่าเหตุการณ์ Halving ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับการสร้างบล็อกใหม่ในแต่ละบล็อก ซึ่งจะทำให้ Bitcoin หายากมากขึ้นเป็นสองเท่า
#Bitcoin halving .. 5 months to go ?
For miners: production cost of 1 btc will double
For investors: stock-to-flow (unforgeable scarcity, inability to inflate stock) will double pic.twitter.com/JWNbJyil4a
— PlanB (@100trillionUSD) December 1, 2019
โดยเขาได้สรุปแล้วว่าการมาของเหตุการณ์ halving นั้นยังคงอยู่ห่างไกลจากช่วงขาลงอย่างเห็นได้ชัด
IMO the run-up is not bearish at all, we are close to the S2F model value, like last 2 halvings. The only thing that surprises me is why we don't see front running.
— PlanB (@100trillionUSD) December 1, 2019
ที่มา : u.today
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น