หากเทียบกับจุดสูงสุดของปีนี้จนกระทั่ง ณ เวลานี้ ราคา Bitcoin นั้นร่วงจาก $14,000 ในเดือน มิ.ย. มาสู่ $7,400 ซึ่งร่วงลงเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว และจุดต่ำสุดที่มันไปแตะก่อนหน้านี้คือ $6,600
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ของ Bloomberg นาย Mike McGlone กลับมองว่า Bitcoin ยังคงเผยสัญญาณบวกอยู่ในขณะที่ปี 2020 นั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้วซึ่งก็ได้ให้เหตุผลเอาไว้ดังนี้
Bitcoin พุ่งแตะ $10,000?
นาย Mike McGlone นั้นเชื่อว่า Bitcoin นั้นกำลังวิ่งเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ถ้าหากมันยังคงมีแนวรับที่สำคัญที่ $6,500 ซึ่งเขากล่าวว่ามันอยู่ที่เวลาเท่านั้นว่าเมื่อไร Bitcoin จะทะยานเหนือ 10,000 ดอลลาร์
เหตุผลแรกคือเขากล่าวว่าราคาทองคำมันพุ่ง ซึ่งเขาก็คิดว่ามันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin นั้นพุ่งตามไปด้วย รวมถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกในตอนนี้ เช่น สงครามระหว่างฮ่องกงและจีน ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจซบเซาซึ่งมันจะทำให้คนหันไปเลือกสินทรัพย์ทางเลือกเป็นช่องทางในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
เหตุอีกประการหนึ่งคือเขามองว่า Bitcoin มันกำลังถูกนำไปใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยความที่มันมีจำนวนจำกัดยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ Halving ที่จะเป็นการลด Supply ของเหรียญ Bitcoin นั้นใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วมันควรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคา Bitcoin นั้นเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้แล้วนาย Thomas Lee ก็ได้มองในแง่บวกเช่นกัน เขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ CNBC เกี่ยวกับตลาดหุ้นและตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เขาเชื่อว่าคนจะยังคงมองด้วยอคติว่า Bitcoin นั้นอยู่ในช่วงขาลงจนกระทั่งถึงปีหน้า ซึ่งนาย Lee ไม่เห็นเช่นนั้น
ในทางตรงข้ามเขาเห็นว่าปี 2020 นั้นจะกลายเป็นปีที่ดีสำหรับ Bitcoin ซึ่งเขาก็ได้ออกมาให้เหตุผล 3 ประการที่ทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งก็คือ
- ราคาหุ้นของสหรัฐฯ เติมโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ S&P 500 ชี้ให้เห็นว่าคนจะเริ่มนำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีควมเสี่ยงมากขึ้น เช่น Bitcoin หรือคริปโตอื่น ๆ เขายังกล่าวอีกด้วยว่าบริษัทของเขานั้นได้ทำการสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้น S&P 500 กับ Bitcoin ด้วย
- รางวัลการขุดจะลดน้อยลงจากการ Halving เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อของ Bitcoin และอีก 6 เดือนก็จะถึงเหตุการณ์นี้แล้ว ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะทำกำไรให้กับนักลงทุนแน่นอน
- สุดท้ายแล้วประเทศจีนจะเข้ามามีส่วนสำคัญ แม้ว่าจีนจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อ Bitcoin ก็ตาม
ที่มา : newsbtc
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น