<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัตราความเหลื่อมล้ำของผู้ถือ Bitcoin ลดลง แต่ของ Ethereum กลับมากขึ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนที่ติดตามและสนใจในคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหลายจะต้องถือเหรียญบางอย่างอยู่ไม่มากก็น้อย หรือมีการเข้าซื้อขายตลอดทั้งปีตามแต่แนวทางของตัวเอง 

ซึ่งแน่นอนว่าในตลาดก็ย่อมมีเหล่าวาฬหรือผู้ที่ถือครองเหรียญเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญที่ทุกคนในโลกใบนี้ที่ไม่ได้มีแต่คนที่สนใจคริปโตเคอเรนซี่เท่านั้นที่รู้จักนั้นก็คือ Bitcoin 

โดยช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา Bitcoin มักกระจุกตัวและถูกซื้อไปโดยเหล่าวาฬที่พร้อมจะช้อนมันตลอดเวลา ทำให้ค่าความเท่าเทียมกันของความมั่งคั่งใน Bitcoin มีอยู่สูงมาก (Bitcoin’s wealth inequality) 

แต่ทว่าดูเหมือนตลอดทั้งปี 2019 ที่ผ่านมาค่าดังกล่าวของ Bitcoin จะมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Altcoin ตัวอื่น ๆ ในตลาดคริปโตเคอเรนซี่อย่างเช่น Ethereum และ Litecoin ยังค่อนข้างมีประมาณที่เท่าเดิม 

โดยจากการวิจัยโดย Clovr ซึ่งได้มีการตรวจสอบการถือครองเหรียญต่าง ๆ ของเหล่าวาฬนักลงทุนว่ามี Cryptoassests ในตอนนี้ต่างเริ่มมีการกระจายตัวไปตามกระเป๋าเงินของคนอื่นมากขึ้นใน Bitcoin สำหรับปี 2019 ซึ่งมีมากถึง 140,000 บัญชีที่ไม่ได้เป็นของ Exchage จาก 4 เหรียญสำคัญในคริปโตเคอเรนซี่ และ Top 100 ของ Ethereum

นอกจากนี้ Clovr ยังค้นพบอีกว่าในบางเหรียญมีผู้ถืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถือเหรียญจำนวนมากไว่ ซึ่งเขามองว่ามันเป็น ‘ความน้อยที่น่าประหลาดใจ’ ซึ่งจากรายงานยังได้บอกอีกว่าบรรดา Exchage จะทำการถอดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่จำพวกดังกล่าวทิ้งอันเนื่องมาจากอาจเกิดการร่วมมือกันขึ้นมาเพื่อควบคุมราคาและเป็นอันตรายได้ 

โดยพวกเขาอ้างว่าเหล่าวาฬบางตัวมีความรวยจนมากเกินไป จนกลุ่มเล็ก ๆ อาจจะสามารถร่วมมือกันเพื่อเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในสกุลเงินและอาจจะตั้งใจทำสิ่งที่เรียกว่า 51% attack กับเหรียญดังกล่าวได้จริง นทางทฤษฎีองค์กรต่าง ๆ 

เช่นรัฐบาลจีนสามารถโจมตี Bitcoin ได้ 51% แม้ว่ามันจะไม่น่าเป็นไปได้สูง แต่สกุลเงินขนาดเล็กมีความเสี่ยงมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับ Bitcoin Gold เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา 

มาดูทางด้านของ Litecoin กันบ้างพวกเขามีความมั่งคั่งที่แตกต่างกันมากที่สุดในบรรดา Altcoin ทั้งหมดโดยมีเพียง 189 บัญชีที่จำเป็นในการสร้างความเป็นเจ้าของส่วนใหญ่

และ 2.58 เปอร์เซ็นต์ของเหรียญ LTC ทั้งหมดที่ถือครองในบัญชีที่ร่ำรวยที่สุด นอกจากนี้บัญชีที่ร่ำรวยที่สุด 10 บัญชีถือปริมารณ 10.36 เปอร์เซ็นต์ของเหรียญ LTC ทั้งหมด

ในขณะเดียวกันมี 1.96% ของผู้ถือเหรียญ Ethereum ถูกจัดอยู่ในบัญชีที่ร่ำรวยที่สุด และ 7.27 เปอร์เซ็นต์ของ Ethereum ทั้งหมดถูกล็อคในกระเป๋าที่ร่ำรวยที่สุด 10 อันดับแรก เช่นเดียวกัน Bitcoin Cash Wallet ที่ร่ำรวยที่สุดถือ 2.79 เปอร์เซ็นต์ของ BCH ทั้งหมดโดยบัญชีสิบอันดับแรกที่ควบคุม 9.38 เปอร์เซ็นต์ 

จากที่เห็นว่าแต่ละเหรียญผู้ที่ร่ำรวยถือครองส่วนแบ่งของตลาดเหรียญเยอะมาก ๆ แต่ในการเปรียบเทียบ Bitcoin ต้องการบัญชีขั้นต่ำ 4,545 บัญชีเพื่อสร้างความเป็นเจ้าของส่วนใหญ่ในสกุลเงินดิจิตอลนี้ 

ส่วนกระเป๋าเงินบิทคอยน์ที่รวยที่สุดยังมีปริมาณที่ถือครองเพียงแค่ 0.62 เปอร์เซ็นต์ของ Bitcoin ทั้งหมดโดยกระเป๋าสิบอันดับแรกคิดเป็น 3.84% ตามที่รายงานวาฬ bitcoin ที่หยุดนิ่งบางแห่งมีนักวิเคราะห์กองทุนจำนวนมากเชื่อว่าพวกเขาสามารถคุมราคาในตลาดได้หากพวกเขาพยายามขายเหรียญทั้งหมดในมือทันทีทันใด 

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ Clovr ต้องการจะบอกโดยเขาได้ใช้ตัวชี้วัดที่ชื่อว่า Gini Index เครื่องมือในการวัดการกระจายความมั่งคั่งซึ่งเขาสรุปได้ว่าในปี 2019 พบว่าความไม่เท่าเทียมของ Ethereums เพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ในปี 2019 (0.69 จาก 0.78) ในขณะที่ bitcoin ลดลงจาก 0.66 เป็น 0.64 ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ Bitcoin และผู้ถือรายย่อยอย่างเราเป็นอย่างมากครับ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น